อาหารสุขภาพบำรุงผิว ตัวช่วยเสริมสุขภาพผิวที่ดีจากภายในแนวคิดเรื่องผิวสวยสร้างได้ด้วยอาหารผิวได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาหารผิวเหล่านี้ก็คือสารอาหารที่มีคุณสมบัติบำรุงผิว โดยสามารถได้รับจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน หากผิวได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดี และลดปัญหาผิวพรรณ
โดยปกติแล้ว ผิวหนังของเราต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล เพื่อทำหน้าที่หลักเป็นเกราะปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอมหรือมลภาวะภายนอกมาสัมผัสผิว และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ การรับประทานอาหารผิวนั้นอาจช่วยให้คุณมีผิวสวยสุขภาพดีโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินราคาแพงลิบลิ่วให้แก่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือสถาบันเสริมความงาม
อาหารผิว ตัวช่วยเสริมสุขภาพผิวที่ดีจากภายใน
4 อาหารผิวที่ต้องมีอยู่ในลิสต์
สารอาหารหลายชนิด อย่างสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันจำเป็น และวิตามินต่าง ๆ ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยรวมเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยใสและแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกได้อีกทาง
1. กรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty Acids)
หลายคนอาจคิดว่าไขมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ความจริงแล้วไขมันชนิดดีเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและผิวหนัง โดยกรดไขมันจำเป็นช่วยยับยั้งการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในผิวหนัง ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายจากรังสียูวีในแสงแดด และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อีกด้วย หากเราได้รับกรดไขมันนี้น้อยจนเกินไปก็อาจทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
ตัวอย่างกรดไขมันดี อย่างโอเมก้า 3 (Omega-3) และโอเมก้า 6 (Omega-6) จัดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่ทำหน้าที่เป็นเกราะปกป้องผิว ช่วยป้องกันและรักษาผิวที่อักเสบ โดยโอเมก้า 6 จะพบในอาหารทั่วไปที่เรารับประทาน เช่น น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ หรือธัญพืชชนิดต่าง ๆ ขณะที่โอเมก้า 3 มักพบในปลาทะเล ผักใบเขียว และถั่วชนิดต่าง ๆ
2. สารต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) มีบทบาทในการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากการเผาผลาญอาหารในร่างกาย การสัมผัสหรือสูดดมมลพิษอย่างควันบุหรี่ รวมไปถึงการได้รับรังสียูวีจากแสงแดด หากร่างกายมีอนุมูลอิสระปริมาณมาก โดยเฉพาะการโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน จะทำให้ผิวเกิดริ้วรอย หมองคล้ำ และเกิดการอักเสบ ดังนั้น สารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้า แคโรทีน (Beta-Carotene) ซีลีเนียม (Selenium) ลูทีน (Lutein) วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี จึงมีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างมาก
แม้ว่าอาหารเสริมที่วางขายในท้องตลาดจะนิยมสกัดสารต้านอนุมูลอิสระมาเป็นส่วนประกอบ แต่การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารโดยตรงจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด โดยมักพบได้ในผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และถั่ว
3. วิตามินบีรวม
วิตามินบีรวมเป็นกลุ่มของวิตามินบี โดยแต่ละชนิดจะทำหน้าที่ต่างกัน ถือเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและระบบประสาท สำหรับวิตามินบีที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ได้แก่ วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน (Niacin) ซึ่งช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว ลดการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งลอกให้ดีขึ้น และวิตามินบี 7 หรือไบโอติน (Biotin) ช่วยบำรุงสุขภาพผม ผิวหนัง และเล็บให้แข็งแรง หากได้รับวิตามินบีไม่เพียงพออาจทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบได้
โดยทั่วไปร่างกายของคนเราจะได้รับวิตามินบีจากการรับประทานอาหารในแต่ละวันอย่างเพียงพอต่อความต้องการอยู่แล้ว สามารถพบได้ในอาหารจำพวกไข่ นม เนื้อสัตว์ ธัญพืชชนิดต่าง ๆ และผักใบเขียว สำหรับการรับประทานวิตามินบีรวมหรือวิตามินบีในรูปของอาหารเสริมนั้นควรใช้ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามินบีและอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
4. โพรไบโอติกส์
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) จัดเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีบทบาทในการรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ หากร่างกายเสียสมดุลระหว่างจุลินทรีย์ชนิดดีและชนิดที่เป็นอันตราย จะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ อาจทำให้ผิวหนังอ่อนแอและอักเสบได้ง่าย และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนังอื่น ๆ ตามมา เช่น สิว ริ้วรอย โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) และโรคผิวหนังแพ้อักเสบ (Eczema)
โพรไบโอติกส์พบมากในอาหารที่ผ่านกระบวนการหมัก เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ผักดอง หรือถั่วหมัก รวมถึงการรับประทานอาหารเสริมในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกรับประทาน โดยเฉพาะผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัวร้ายแรง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตราย
นอกจากอาหารผิวเหล่านี้ ยังมีสารอาหารอื่น ๆ สำคัญต่อร่างกาย อย่างโปรตีนหรือแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่ได้จากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย ทั้งนี้ ควรดูแลผิวพรรณเพิ่มเติมด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทาครีมกันแดดก่อนออกไปสัมผัสแสงแดดเสมอ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผิวหรือการรับประทานอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลผิวด้วยวิธีที่เหมาะสม