สำหรับผู้ที่ต้องใช้รถยนต์เป็นประจำย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่างค่าใช้จ่ายที่มาจากการใช้รถนั้นเป็นสิ่งที่มาคู่กันทั้งค่าซ่อมบำรุงและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงนั้นสามารถกำหนดประมาณการไว้ล่วงหน้าได้จากการเช็กระยะทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี แต่ค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสิ่งที่กะเกณฑ์ได้ยากขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ โดยเฉพาะการใช้งานภายในธุรกิจที่มีความไม่แน่นอน การเติมน้ำมันจึงเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก
บัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ดจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในส่วนนี้
บัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ด คืออะไร บัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ด หรือ Fleet Card คือบัตรเติมน้ำมันที่จะมาเพิ่มการทำงานอย่างเป็นระบบให้กับผู้ประกอบการ โดยสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งวงเงินในการเติมน้ำมัน ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยในการใช้งาน ที่ต้องกรอกรหัสผ่านเข้าสู่ระบบทุกครั้ง อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบยอดการเติมน้ำมันและยอดค่าใช้จ่ายได้ตลอดเวลา จึงเป็นเหมือนอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ผู้ประกอบการหรือองค์กรสามารถวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของบัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ด
1. ปลอดภัย ข้อดีแรกที่ผู้ประกอบการกำลังมองหาในบัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ด คงหนีไม่พ้นเรื่องของความปลอดภัย เพราะการพกเงินสดในแต่ละครั้ง อาจจะเพิ่มความไม่ปลอดภัยให้กับบริษัทหรือตัวผู้ใช้บริการได้ อีกทั้งยังจำกัดผู้ใช้เนื่องจากเวลาที่รูดบัตรต้องทำการใส่รหัสเสียก่อน ผู้ที่ใช้ได้จึงมีแค่คนที่รู้รหัสเท่านั้น หากมีปัญหาจึงสามารถหาต้นเหตุได้ง่าย
2. สามารถกำหนดวงเงินได้ตามต้องการ สามารถตั้งค่าและกำหนดวงเงินได้ตามต้องการ จึงตอบโจทย์อย่างมาก ทั้งในการใช้งานแต่ละครั้งในรูปแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน จะช่วยตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น เพื่อให้สามารถจัดการกับการใช้เงินในส่วนของค่าน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. เติมน้ำมันได้อย่างเดียว ในข้อนี้บางคนอาจมองเป็นข้อเสีย แต่สำหรับการใช้งานในองค์กรหรือในมุมของผู้ประกอบการ เรื่องนี้คงเป็นข้อดี เพราะบัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ดจะมีข้อจำกัดคือไม่สามารถนำไปซื้อสินค้าอื่นได้ รวมถึงไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ด้วยเช่นกัน จึงป้องกันการทุจริตจากการนำบัตรไปใช้จ่ายสินค้าอื่นได้ง่ายขึ้น
4. ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน บัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ดถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้คุณสามารเพิ่มสภาพคล่องในด้านการหมุนเวียนเงินทุนในธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถจำกัดการใช้เงิน ป้องกันเงินรั่วไหลโดยไม่จำเป็น
