เจาะตำรา A Lange & SöhneZeitwerk โมเดลแรกถึงปัจจุบัน! (Part 1)ในยุคที่นาฬิกาดิจิทัลกำลังรุ่ง อีกหนึ่งนาฬิกาที่สร้างกระแสใหม่คือ A. Lange & Söhne มาพบกับการเดินทางของพวกเขาตั้งแต่โมเดลแรกจนถึงปัจจุบัน
หากกล่าวถึงนาฬิกาในยุคปัจจุบันแล้วนั้น หลาย ๆ ท่านคงสังเกตเห็นได้ว่าเรามี
แบรนด์นาฬิกา ต่าง ๆ มากมายที่เน้นการนำเสนอนาฬิกาในแบบที่ไม่มีเข็มชั่วโมงหรือเข็มนาที ในยุคที่นาฬิกาดิจิทัลกำลังเข้าถึงกลุ่มคนมากมาย อีกหนึ่งรุ่นนาฬิกาที่สร้างความประหลาดใจและสร้างกระแสใหม่ ๆ ให้กับวงการนาฬิกานั้นคงหนีไม่พ้นคอลเลกชันหนึ่งของ Haute Horlogerie จากแบรนด์ A. Lange & Söhne ผู้ซึ่งมาพร้อมกับการบอกเวลาแบบใหม่ นำเทรนด์ไม่เหมือนใคร เรียกว่าทันกระแสโลกในปัจจุบันสุด ๆ กระนั้นเอง เราจึงอยากพาทุกท่านมาร่วมทัวร์ไปกับการเดินทางครั้งใหญ่ของ A. Lange & Söhne Zeitwerk ตั้งแต่คอลเลกชันแรกในปี 2009 มาจนถึงรุ่นที่เปิดตัวล่าสุดในปี 2022
ในบรรดาตัวเลือกอันหลากหลายของนาฬิกาที่ไม่ว่าจะเป็นแบบมีเข็มบอกเวลาและมีหน้าปัดแบบ classic การใช้นาฬิกาบอกเวลาแบบดิจิทัลหรือนาฬิกาที่บอกค่าเวลาผ่านช่องหน้าต่างบนหน้าปัดก็เป็นอีกหนึ่งความสวยงามของเรือนเวลาที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อีกทั้งวิธีการบอกค่าเวลาในรูปแบบนี้ยังเป็นที่นิยมในอดีตมากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องบอกเวลาแบบ pocket watches หรือนาฬิกาพก ซึ่งเมื่อเราย้อนกลับไปในปี 1960 จะพบว่ากลไกหน้าปัดดิจิทัลนั้นได้รับความนิยมสูงจนก่อเกิดเป็นนาฬิกาข้อมือยอดฮิต อีกทั้งนาฬิการูปแบบนี้ยังถือเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับแบรนด์ใดก็ตามที่กล้าจะออกนอกกรอบเพื่อค้นพบคุณค่าแห่งการผสมผสานระหว่างเวลาและเทคโนโลยี
นาฬิกา A Lange & Söhne เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
2009 – THE ORIGINAL ZEITWERK
Zeitwerk รุ่นออริจินัลปี 2009 ถูกปล่อยวางจำหน่ายในสีทองคำ สีทองคำขาว สีโรสโกลด์ และแพลทินัม พร้อมหน้าปัดแบบเรียบ ๆ แต่ดูมีสไตล์ในสีเงินทึบ โดยมีชื่อเรียกว่าสี Ivory Argenté และสีดำในรูปแบบของ Argenté และ Rhodié เพื่อให้แต่ละสีนั้นมีชื่อเรียกจำเพาะของแบรนด์
2010 – THE ZEITWERK LUMINOUS
หนึ่งปีต่อมา Zeitwerk Luminous รุ่น Limited Edition (ที่ขณะนั้นยังไม่ได้ใช้ชื่อ Lumen) ก็ถูกเปิดตัวออกมาสู่สายตาชาวโลกในรูปแบบแพลทินัมพร้อมด้วยหน้าปัดคริสตัลแซปไฟร์กึ่งโปร่งแสงที่ได้รับการเคลือบแบบพิเศษที่สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด ช่วยให้ผู้สวมใส่อ่านค่านาฬิกาได้ง่ายขึ้นแม้จะไม่มีแสงสว่าง โดยเอฟเฟ็กต์นี้ถูกพัฒนาขึ้นมาจากการเคลือบ PVD สีดำบนไทม์บริดจ์สีเงินของเยอรมัน
หลังจากนั้นไม่นานการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “Lumen” ก็ถูกจัดตั้งขึ้น ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่แขกผู้ถูกรับเชิญเป็นอย่างมากเพราะบรรดาแขกทุกท่านนั้นถูกเชิญให้เข้าไปอยู่ในศาลาสีดำสนิทในกรุงเบอร์ลินโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นต่อไป ทุกอย่างในที่นั้นถูกเซ็ตเป็นโทนสีดำสนิทแม้กระทั่งการทานอาหารที่ต้องใช้แสงสีดำ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนส่งผลต่อการเปิดตัว Lumen อันน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่กลับเป็นกังวลในเรื่องของภาวะแทรกซ้อนทางเสียงที่มีต่อนาฬิกา จนกระทั่ง Zeitwerk ประกาศเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่อีกครั้งในปี 2011
2011 – THE ZEITWERK STRIKING TIME
Zeitwerk Strikeing Time กลายเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่บริษัทผลิตขึ้นพร้อมกับเสียงบอกเวลา โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีดำพร้อมไทม์บริดจ์สีเงินตรงกลาง รวมถึงดีไซน์สีดำของตัวนับวินาที โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่อดึงความสนใจไปที่ค้อนเหล็กขัดสีคู่หนึ่งในตำแหน่ง 5 นาฬิกาและ 7 นาฬิกา ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้ทันทีจากที่หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้
นอกจากนั้นแล้ว Zeitwerk Strikeing Time ยังมาพร้อมกับการเคลื่อนไหว Calibre L043.2 ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ทุกครั้งที่มีการกระโดดของจานหมุน ค้อนที่ถูกเซ็ตไว้ให้ตีบอกเวลาจะถูกยกขึ้นเล็กน้อย เกิดเป็นแรงดึงสริงที่กระตุ้นให้เกิดการตีค้อนบอกเวลาอันใดอันหนึ่ง ซึ่งค้อนด้านขวา (5 นาฬิกา) เป็นค้อนบอกเวลาชั่วโมง และ ค้อนทางด้านซ้าย (7 นาฬิกา) ใช้บอกเวลาทุก ๆ 15 นาที โดยในปี 2011 นี้ Zeitwerk Strikeing Time เปิดตัวพร้อม references 2 รุ่นได้แก่ รุ่นทองคำขาว และรุ่นแพลทินัมที่เป็นแบบ limited เพียง 100 เรือน ต่อมาในปี 2014 รุ่นโรสโกลด์ก็ถูกเปิดตัวสู่สายตาชาวโลก
เรื่องราวของ Zietwerk ในปีถัดไปนั้นจะน่าสนใจเพียงใด โปรดรอติดตามได้ในพาร์ทสุดท้ายของเรา และในระหว่างนี้ หากท่านสนใจซื้อ ขาย ส่งต่อ A. Lange & Söhne แบรนด์แท้มือสอง สามารถติดต่อเราผ่านทางการแอดไลน์ @siamwatchclub ได้ทันที