แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 41
1
ทำบุญวันเกิด เปิดเคล็ดลับเสริมดวง ทำบุญตามวันเกิดยังไงให้ชีวิตยิ่งปัง !

ทำบุญวันเกิด อะไรดี ? บอกต่อวิธีเตรียมของทำบุญวันเกิด ใครเกิดวันไหนควรใส่บาตรอย่างไร ทำบุญวันเกิด สังฆทาน ถวายอะไรให้ได้อานิสงส์สูงสุด เสริมสิริมงคลให้ชีวิตราบรื่นรุ่งเรือง

คนไทยมีความเชื่อเรื่องทำบุญวันเกิดมาช้านาน จนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติคู่กับวิถีชาวพุทธ หลายครอบครัวปลูกฝังให้เด็ก ๆ ทำบุญวันเกิดตั้งแต่ยังเล็ก พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็ยังคงสืบทอดการทำบุญเช่นนี้อยู่ โดยเชื่อว่าจะเสริมความเป็นมงคล ทั้งเรื่องโชคลาภ เงินทอง ความสำเร็จ และสุขภาพที่ดีให้กับตัวเอง แต่รู้ไหมว่า การทำบุญตามวันเกิดของคนทั้ง 8 วัน มีเคล็ดลับแตกต่างกัน ทั้งอาหารใส่บาตร ของที่ถวายพระ และการทำทาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มแต้มบุญในแต่ละด้านและลดกรรมด้วย ถ้าอยากรู้ว่า ทำบุญวันเกิด อะไรดี ที่เหมาะสมและช่วยเสริมดวงให้ตัวเอง ตามมาอ่านกันเลย

 ความเป็นมาของการทำบุญวันเกิด

จุดเริ่มต้นของการทำบุญวันเกิด เกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ด้วยทรงพระราชดำริเห็นว่าการมีอายุยืนมาบรรจบรอบปีครั้งหนึ่ง ๆ ไม่ตายไปเสียก่อน ถือเป็นลาภอันประเสริฐ ควรยินดีและบำเพ็ญกุศล เพื่อประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น จึงเริ่มทำบุญตักบาตรเป็นตัวอย่าง ด้วยการสวดมนต์เลี้ยงพระจำนวน 10 รูปอย่างเรียบง่าย ซึ่งกลายมาเป็นประเพณีทำบุญวันเกิดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

 ทำบุญเสริมดวงตามวันเกิด

สำหรับการทำบุญวันเกิด มีรูปแบบและวิธีปฏิบัติหลากหลายตามความสะดวกและสบายใจ ทั้งการใส่บาตร ถวายสังฆทาน ทำทาน บริจาคสิ่งของ ซึ่งสิ่งที่เราทำบุญนั้นจะส่งอานิสงฆ์หนุนนำที่ไม่เหมือนกัน หากเราเลือกของที่เป็นมงคล ถูกโฉลกกับวันเกิดของเรา ก็จะยิ่งเสริมดวงให้ดีเกินต้าน ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเตรียมกับข้าวใส่บาตร หรือเตรียมของทำบุญสังฆทานในวันเกิดยังไงดี ลองใช้ลิสต์นี้เป็นไอเดียกันได้

 ทำบุญวันเกิด วันอาทิตย์

คนเกิดวันอาทิตย์ ดวงทำบุญกับคนไม่ขึ้น มักจะปวดหัวและมีปัญหาเพราะคนอื่นเป็นประจำ จึงควรทำบุญในเรื่องอำนวยความสว่างให้กับผู้อื่น ซึ่งจะช่วยขจัดความมืดมนและอุปสรรคในดวงชะตาของคุณ

ไหว้พระ : ปางถวายเนตร บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ”

อาหารใส่บาตร : ของคาวควรเป็นประเภทไข่ เช่น ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ต้ม แกงกะทิ ส่วนของหวาน เป็นไข่หวาน มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ขนมใส่กะทิ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว น้ำขิง เงาะ

เคล็ดลับเสริมดวง : เน้นการทำบุญถวายธูป เทียน หลอดไฟ ไฟฉาย หรือเติมน้ำมันตะเกียงตามวัด นอกจากนี้ยังสามารถทำทานกับผู้พิการทางสายตา โรงพยาบาลโรคตา มูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ มูลนิธิโรคหัวใจ และอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

ทำบุญวันเกิด วันจันทร์

คนเกิดวันจันทร์ เป็นคนที่ค่อนข้างเพียบพร้อม มีสเน่ห์ วางตัวดี แต่มักจะเสียใจเพราะครอบครัวหรือคู่ครอง และเนื่องจากดาวจันทร์นั้นเป็นดาวต้นธาตุน้ำ ดวงคนเกิดในวันนี้จึงควรทำบุญเกี่ยวกับน้ำ จะช่วยทำให้ชีวิตมีแต่ความสุข สดใส เงินไหลมาเทมา

ไหว้พระ : ปางห้ามญาติ บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา”

อาหารใส่บาตร : ของคาวเน้นประเภทสัตว์ปีก สัตว์น้ำ เช่น ไก่ผัดขิง ไก่ย่าง ไก่ทอด ปูผัดผงกะหรี่ ปูนึ่ง ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู เต้าหูทอด แกงจืดเต้าหู้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ปลาสลิดทอด ส่วนของหวาน เลือกเป็นน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด นมกล่อง เผือก มัน ลางสาด ขนมเปี๊ยะ

เคล็ดลับเสริมดวง : ทำบุญด้วยการถวายน้ำดื่ม แก้วน้ำ แจกัน ถวายผ้าไตรจีวร และสังฆทานหรือภัตตาหารเพล เพื่อให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง การงานและการเงินคล่องตัว เสริมด้วยการทำบุญเกี่ยวกับมูลนิธิที่ช่วยเหลือคน โดยเฉพาะผู้หญิง มูลนิธิช่วยเหลือสตรี นอกจากนี้ยังควรร่วมเวียนเทียนในวันสำคัญต่าง ๆ ทางพระพุทธศาสนา จะเป็นการเปิดดวงรับโชคยิ่งขึ้น

 ทำบุญวันเกิด วันอังคาร

ดวงคนเกิดวันอังคาร ส่วนใหญ่มีนิสัยที่ค่อนข้างใจร้อน เพราะเป็นลักษณะของธาตุลม จึงต้องหมั่นเจริญภาวนา ฝึกฝนการควบคุมอารมณ์ ทำจิตใจให้สงบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสติและช่วยฝึกสมาธิได้ดีขึ้้น

ไหว้พระ : ปางไสยาสน์ (พระนอน) บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง”

อาหารใส่บาตร : ถวายอาหารประเภทเส้น ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ วุ้นเส้น ขนมจีน ส่วนของหวานก็เป็นเส้นเช่นเดียวกัน อย่างฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง หรือผลไม้ ทุเรียน ระกำ ขนุน

เคล็ดลับเสริมดวง : ควรถวายของมีคมหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้ เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ เครื่องมือช่าง เหล็ก แปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม เป็นต้น และสามารถทำทานด้วยการบริจาคให้กับผู้พิการทางปาก ปากแหว่ง ผู้ป่วยโรคลมชัก รวมถึงปล่อยชีวิตสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยนก ปล่อยปลา โค กระบือ หรือหาโอกาสทานเจหรือมังสวิรัติ จะช่วยให้ชีวิตมีแต่ความรุ่งเรือง

 ทำบุญวันเกิด วันพุธ (กลางวัน)

พื้นดวงคนเกิดในวันพุธเป็นคนมีวาทะศิลป์ เวลาอยู่ใกล้ใครแล้วจะทำให้คนรอบข้างตกหลุมรักได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนขี้เบื่อ อาจจะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคเล็กน้อยเข้ามาให้แก้ไข แต่หลายเรื่องพร้อม ๆ กัน จึงควรทำบุญเกี่ยวกับการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้ชีวิตมีความก้าวหน้า

ไหว้พระ : ปางอุ้มบาตร  บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท”

อาหารใส่บาตร : ของคาวเป็นเนื้อหมู เช่น แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอยส่วนของหวาน เช่น ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง

เคล็ดลับเสริมดวง : ทำบุญด้วยการร่วมถวายหรือร่วมทำหนังสือธรรมะ หนังสือสวดมนต์ หรืออุปกรณ์ส่งเสริมด้านการศึกษาที่ต้องใช้ในการศึกษาพระธรรมวินัย เช่น สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ และบริจาคให้กับผู้พิการทางหู โรงเรียนสอนคนหูหนวก โรงพยาบาลโรคสมอง ช่วยเหลือคนที่ลำบากตกทุกข์ได้ยากในด้านต่าง ๆ

 ทำบุญวันเกิด วันพุธ (กลางคืน)

คนที่เกิดวันพุธกลางคืน มีบุญวาสนาค่อนข้างดี ดวงแข็ง มักจะมีเซนส์ที่ดี บางคนอาจสัมผัสกับสิ่งลี้ลับได้ ชีวิตถ้าดีก็ดีสุด แย่ก็แย่สุดเหมือนกัน ควรทำบุญด้วยของดำ หมั่นรักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิบ่อย ๆ จะช่วยให้ชีวิตราบรื่นขึ้น

ไหว้พระ : ปางป่าเลไลย์  บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”

อาหารใส่บาตร : ของคาวให้เลือกเป็นประเภทของหมักดอง เช่น ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก ส่วนของหวาน ได้แก่ ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือผลไม้หัวโต ๆ

เคล็ดลับเสริมดวง : ควรทำบุญด้วยการถวาย พัดลม ยาแก้โรคลม ยาหอม หรืออุปกรณ์ที่ใช้ขยายเสียง ถ้าให้ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ทำบุญกับหน่วยงานหรือมูลนิธิที่เกี่ยวกับยาเสพติด จะช่วยเสริมดวงในด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้

 ทำบุญวันเกิด วันพฤหัสบดี

คนเกิดในวันพฤหัสบดี พื้นฐานเป็นคนดวงดีอยู่แล้ว มีคนนับหน้าถือตามาก แต่กลับเจอคนที่ไม่ค่อยจริงใจ โดนหักหลังบ่อย ๆ ถ้าได้ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ สวดมนต์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมดวง เสริมบารมีได้

ไหว้พระ : ปางสมาธิ บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ”

อาหารใส่บาตร : ของคาว เน้นประเภทพืชใบเถา เช่น แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า ส่วนของหวานก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแตงโม แตงไทย แคนตาลูป หรือน้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้

เคล็ดลับเสริมดวง : เน้นทำบุญด้วยการถวายค่าน้ำค่าไฟ สบง จีวร หนังสือธรรมะ โต๊ะหมู่บูชา ยารักษาโรค และสวดมนต์บ่อย ๆ ร่วมกับการทำบุญให้โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว เสริมให้ชีวิตราบรื่น ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ

 ทำบุญวันเกิด วันศุกร์

คนเกิดวันศุกร์ เป็นคนที่มีเสน่ห์ มีรสนิยมดี แต่ชอบคิดมากกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แถมไม่ค่อยสมหวังกับความรักอีกด้วย จึงควรทำบุญเสริมดวงเกี่ยวกับผู้ยากไร้ เพื่อช่วยเสริมดวงให้มีวาสนายิ่งขึ้น

ไหว้พระ : ปางรำพึง บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “วา โธ โน อะ มะ มะ วา”

อาหารใส่บาตร : ของคาว ประเภทของหอมหวาน เช่น ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม ส่วนของหวาน สามารถเลือกขนมหวานหอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม

เคล็ดลับเสริมดวง : ทำบุญด้วยการถวายของสวย ๆ งาม ๆ ย่ามแก่พระสงฆ์ นาฬิกา โต๊ะรับแขก ระฆังใบเล็ก รวมไปถึงดอกไม้ที่มีสีสวยและกลิ่นหอม และปล่อยชีวิตสัตว์เป็นทาน ละเว้นการฆ่าสัตว์ต่าง ๆ ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส เพื่อช่วยให้คนรัก คนเมตตา

 
ทำบุญวันเกิด วันเสาร์

คนเกิดในวันเสาร์คนเป็นคนจิตใจแข็งแกร่ง ต่อให้มีอุปสรรคก็พร้อมลุย แม้ทำดีแต่ก็ไม่มีใครเห็น ดังนั้นถ้ามีโอกาสให้ทำบุญกับบุพการี ปลูกต้นไม้ให้วัด ไถ่ชีวิตสัตว์ จะช่วยเสริมดวงและบรรเทาวิบากกรรมลงได้

ไหว้พระ : ปางนาคปรก บูชาด้วยบทสวดมนต์ (แบบย่อ) “โส มา ณะ กะ ระ ถา โธ”

อาหารใส่บาตร : ของคาวประเภทอาหารที่มีรสขม ของดำ เช่น มะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว ของหวานเป็นกาแฟ โอเลี้ยง ลูกตาลเชื่อม

เคล็ดลับเสริมดวง : ทำบุญด้วยการถวายสิ่งของที่เป็นร่มเงา เช่น ร่ม กระเบื้องมุงหลังคา นอกจากนี้ยังสามารถถวายอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาด สร้างห้องน้ำถวายวัน เพราะจะช่วยเสริมดวงด้านโชคลาภ หรือบริจาคช่วยเหลือโรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท จะเสริมความเป็นสิริมงคล

ทำบุญตามวันเกิดให้ถูกจุด อัปเลเวลแต้มบุญให้ทวีคูณ ซึ่งหากใครไม่สะดวกจัดเตรียมอาหารหรือของถวายพระเอง ปัจจุบันก็สามารถหาซื้อชุดทำบุญสำเร็จรูปตามร้านหรือสั่งออนไลน์ได้ง่าย ๆ แต่หลังจากทำบุญแล้ว อย่าลืมกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลและขอพรพระ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตกันด้วยล่ะ

2
เที่ยววัดดอนขนาก นครปฐม พญานาค 9 ตระกูล พิกัดสายมูที่กำลังมาแรงตอนนี้

วัดดอนขนาก ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ทำบุญ ซึ่งมีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมและขึ้นชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์

ที่นี่ วัดดอนขนาก เป็นที่ประดิษฐานพญานาค 9 ตระกูล ซึ่งถือเป็นประติมากรรมที่ดูยิ่งใหญ่และสวยงาม เหมาะสำหรับคนที่มีความเชื่อและเคารพในองค์พญานาคเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ยังมีองค์พระนอนขนาดใหญ่สีขาว ที่มีความวิจิตรงดงาม เป็นที่เคารพสักการะภายในวัดอีกด้วย รวมไปถึงประติมากรรมต่างๆ อีกมากมายภายในวัด

ประวัติ วัดดอนขนาก

วัดดอนขนาก เดิมเป็นที่ดอนมีต้นป่าขนากขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนที่อาศัยอยู่ได้เรียกชื่อท้องถิ่นที่มีป่านั้นว่า ดอนขนาก ต่อมาได้จัดสร้างเป็นสำนักสงฆ์ เมื่อ พ.ศ. 2450 โดย นายไล้ อยู่สิริ บริจาคที่ดินเป็นที่สำนักสงฆ์ จำนวน 8 ไร่ และนายหยก กิ่มเพชร บริจาคที่ดินเป็นที่สำนักสงฆ์ จำนวน 4 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา รวมที่ดินทั้งหมด 12 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ต่อมานายพุฒ นางอ่วม นายนาค และนายบุตร มีจิตศรัทธาสร้างกุฏิขึ้นรวม 2 หลัง เป็นแบบทรงไทยโบราณ จากนั้นได้นิมนต์พระภิกษุวัดไผ่ล้อมจำนวน 5 รูปมาจำพรรษา โดยมี พระอาจารย์จ๊ะ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสรูปแรก จนถึงสมัยพระอธิการศรีทอง อังสุทตฺโต เป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ. 2499 ท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์วัตถุเจริญรุ่งเรืองมาก วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ได้แก่ วิหารโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม หลวงพ่อสี่ทิศ รวมถึงแม่ตะเคียน ประชาชนมักมาลอดใต้โบสถ์ 3 รอบ หรือ 9 รอบ

พญานาค​ 9​ ตระกูล​ วัดดอนขนาก ไปวัดเดียวเหมือนได้ไปเที่ยวได้ทั้งเมืองบาดาล

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวในตอนนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดสายมูที่ต้องไปเยือนครับ

    ที่อยู่ : 92 ตำบล ดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม นครปฐม 73000
    โทรศัพท์ : 082 364 5684

3
เครื่องมือจัดฟันเด็ก สำหรับเด็ก

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันนั้นมีด้วยหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการจัดฟันในแต่ละแบบนั้น ก็มีความแตกต่างกันและมีจุดเด่นที่ต่างกัน เพราะปัญหาในเรื่องของลักษณะหรือรูปร่างของฟันในแต่ละคนนั้น มีความแตกต่างกัน จึงมีวิธีการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การรักษาด้วยการจัดฟันจึงมีหลายรูปแบบ ซึ่งการรักษาก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ว่า ผู้เข้ารับการจัดฟัน เหมาะสมที่จะเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันรูปแบบไหน นอกจากนี้การจัดฟันก็มีเครื่องมือการจัดฟันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น การจัดฟันแบบใส ก็จะมีเครื่องมือการจัดฟันที่มีลักษณะเป็นพลาสติกใส มีความบางและสามารถถอดออกได้อย่างง่ายได้ และก็จะมีวิธีการทำงานหรือการเคลื่อนของตัวฟันที่ไม่เหมือนกัน


แต่วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเครื่องมือการจัดฟันในเด็ก ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการจัดฟันรูปแบบใหม่ ที่เด็กตั้งแต่อายุ 12-15 ปี สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงแม้ว่า เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ ไม่ว่าจะแบบเหล็กติดแน่นหรือแบบใส จะมีข้อดีตรงที่ ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถแปรงฟันได้ง่ายและสังเกตไม่ค่อยเห็น แต่การที่มันถอดเข้าออกได้ ก็กลายเป็นข้อเสีย เพราะถ้าเด็กไม่ยอมสวมใส่ ซึ่งการจัดฟันแบบใสนั้น จะต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือ เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ทันตแพทย์กำหนด ในขณะที่เครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่น จะอยู่ในปากตลอดเวลา เด็กเอาออกเองไม่ได้ เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ ต้องคอยกวดขันให้ลูกแปรงฟันให้สะอาด และระวังอย่าให้เครื่องมือหลุดเท่านั้นเอง เพียงเท่านี้การรักษาด้วยการจัดฟันก็จะเป็นประโยชน์แก่สุขภาพช่องปากและฟันสำหรับเด็กเป็นอย่างมากและจะส่งผลดีต่อบุคลิกภาพของบุตรหลานของท่านได้ในอนาคต

สำหรับเครื่องมือการจัดฟันในเด็กนั้น อย่างที่บอกไปแล้ว เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่จะชื่นชอบสีสันของยางบนเหล็กจัดฟัน สนุกกับการเลือกสีสันยาง จึงทำให้การจัดฟันถือเป็นเทรนด์ยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นกันเลยทีเดียว นอกจากจะได้รับความนิยมแล้ว การจัดฟันยังสามารถช่วยทำให้สุขภาพช่องปากและฟันของเราดีขึ้นด้วย  และที่สำคัญ เครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่น มีราคาที่ไม่แพง และแทบจะไม่มีข้อจำกัดในการรักษา สามารถเคลื่อนฟันได้หลากหลายมิติ มีประสิทธิภาพของเครื่องมือ ขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของทันตแพทย์ ในการประยุกต์ใช้งานของเครื่องมือเหล็กแบบติดแน่น จึงเป็นเครื่องมือจัดฟันที่มีความคุ้มค่า ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่มันจะได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งนี้เครื่องมือการจัดฟันสำหรับเด็ก ยังมีอีกหนึ่งประเภทนั่นก็คือ เครื่องมือการจัดฟัน EF Line ที่สามารถใช้รักษาได้ตั้งแต่เด็กที่มีอายุ 4-15 ปี ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของใบหน้าด้วย


ข้อนี้ถือเป็นจุดเด่นของเครื่องมือการจัดฟัน EF Line และนอกจากนี้เครื่องมือการจัดฟัน EF Line ยังสามารถช่วยแก้ปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น รวมถึงจัดการฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การจัดฟันสำหรับเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่าน อาจจะคิดว่าไม่สำคัญ แต่ต้องบอกเลยว่า การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย ถือว่าเป็นผลดีต่อบุตรหลานของท่าน เพราะการที่เราดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันตั้งแต่ยังเด็ก ก็จะทำให้เรามีลักษณะฟันที่ดีได้

หากพ่อแม่ท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่คลินิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และสามารถให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และมีรอยยิ้มที่สดใส สมวัย มีฟันที่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างเต็มที่ ทำให้การรับประทานอาหารของลูกน้อยมีความสุขมากยิ่งขึ้น

4
เด็กฟันแท้หาย เข้ารับการจัดฟันเด็ก อาจช่วยได้

เด็กๆหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากทำความสะอาดฟันได้ไม่ถูกวิธี ซึ่งการที่เราทำความสะอาดช่องปากได้ไม่ทั่วถึง อาจจะทำให้เราเกิดเป็นโรคฟันผุได้ โรคฟันผุในเด็กนั้นต้องบอกว่ามีเด็กจำนวนไม่น้อยที่มีฟันผุตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเนื่องจากเด็กๆ ชอบรับประทานขนมของหวาน ลูกอม และไม่ได้รับการทำความสะอาดฟันที่ดี จึงทำให้เกิดคราบบนผิวฟันและส่งผลทำให้เกิดฟันผุได้ ถึงแม้ว่าเด็กบางคนยังมีฟันน้ำนมอยู่ แต่เราก็ต้องดูแลให้ดี เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่คิดว่าฟันน้ำนมของเด็กนั้น ไม่มีความสำคัญ เพราะคิดว่าเดี๋ยวฟันแท้ก็งอกขึ้นมาแทนที่ ซึ่งความคิดนี้ถือว่าผิดและส่งผลเสียต่อตัวเด็กโดยตรง ฟันน้ำนมนั้น ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้


ถ้าหากฟันน้ำนมหลุดก่อนเวลาอันควร อาจจะทำให้ฟันแท้ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ เนื่องจากโครงสร้างของฟันแท้ยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งปัญหานี้ถือว่าเด็กหลายคนมักจะพบเจอได้บ่อย เพราะฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรสอนให้ลูกรู้จักดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ตั้งแต่เด็กเด็กปลูกฝังให้เขารู้จักวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธีและให้ใส่ใจในเรื่องของช่องปากให้มากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาฟันในอนาคต สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของที่ฟันแท้หายหรือไม่สามารถขึ้นมาได้ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและอาจทำให้เกิดปัญหาฟันได้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันในเด็กอาจจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรสังเกตฟันของบุตรหลานของท่าน ถ้าหากพบสัญญาณผิดปกติให้รีบพาหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อเข้ารับการแก้ไข

เราจะมาอธิบายของกระบวนการการขึ้นของฟันก่อน เพื่อที่จะได้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น ในวัยทารกทุกคนมีหน่อฟันที่เจริญอยู่ใต้เหงือกตั้งแต่ในท้องแม่และพร้อมจะเริ่มงอกเมื่ออายุครบ 6 เดือน ฟันหน้า 2 ซี่ล่างจะงอกก่อน ตามด้วยฟันหน้าด้านบน 4 ซี่ และจากนั้นจึงเป็นฟันหน้าล่างอีก 2 ซี่ ส่วนฟันที่เหลือจะงอกครั้งละสองซี่ ซี่ละข้าง และฟันน้ำนมนี้จะงอกครบทั้งหมด 20 ซี่เมื่อเด็กอายุ 3 ขวบ แต่เด็กบางคนฟันงอกช้า ซึ่งสาเหตุของของฟันขึ้นช้า อาจเกิดจาก 2 กรณี ก็คือยังไม่ถึงกำหนดอายุที่ฟันแท้จะขึ้น โดยปกติ ฟันแท้ซี่กลางด้านบนจะขึ้นเมื่ออายุ 7-8 ปี และหากฟันน้ำนมซี่หลุดออกไปก่อนจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีฟันผุ หรือเกิดอุบัติเหตุ เป็น  และฟันซี่ที่หลุดไปนั้น เป็นฟันแท้ ดังนั้น ก็ย่อมจะไม่มีฟันงอกออกมาอีก


แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงกรณีที่เด็กฟันแท้ไม่ขึ้น อาการฟันหาย เกิดจากฟันขึ้นเองไม่ได้เองตามธรรมชาติ แต่กลับไปฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร ซึ่งฟันน้ำนม คือเครื่องมือรักษาช่องว่างตามธรรมชาติในขากรรไกร เพื่อกันพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้น แต่หากต้องถอนฟันน้ำนมทิ้ง ก่อนเวลาอันควร ก็จะทำให้ขาดความสมดุลของฟันที่เหลือในช่องปาก ฟันซี่อื่นอาจเคลื่อนตัวเข้ามาในช่องว่าง ของฟันน้ำนมที่ถูกถอนไป ทำให้ฟันแท้ที่จะขึ้นขาดพื้นที่ ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ตามธรรมชาติ ซึ่งการเข้ารับการจัดฟันในเด็กสามารถแก้ไขปัญหาฟันหายได้ ถ้าหากบุตรหลานของท่าน มีอาการฟันแท้หายหรือขึ้นไม่ครบ ก็ควรพาบุตรหลานของท่านมาพบทันตแพทย์จัดฟัน เพราะอาจช่วยดึงฟันที่ฝังให้งอกขึ้นมาได้ เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้มีฟันที่สวยงาม สามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างเต็มที่ และมีบุคลิกภาพที่ดี

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่คลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และมีประสบการณ์ด้านทันตกรรมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองวางใจได้เลยว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

5
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


6
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


7
จัดฟันบางนา: เรื่องน่ารู้ ก่อนคิด จัดฟัน

จัดฟัน ไม่ใช่เพียงแค่ เป็นการแก้ปัญหา ของผู้ที่มีความผิดปกติของเหงือกและฟัน แต่การจัดฟัน ยังช่วยเสริมบุคลิกของผู้ที่จัดฟันให้แลดูดีขึ้น มั่นใจตนเองมากขึ้น ดังนั้น ก่อนที่จะคิดจัดฟัน เราต้องศึกษาอะไรบ้าง วันนี้ จึงมีข้อแนะนำ มาฝาก ดังนี้

ชนิดของเครื่องมือ ที่ใช้ในการจัดฟัน เครื่องมือแต่ละชนิดอาจมีความสามารถในการเคลื่อนฟันต่างกัน หรือสร้างจากวัสดุที่ต่างกัน และในบางครั้งผู้ป่วยคนหนึ่งอาจต้องใช้เครื่องมือมากชนิดกว่าผู้ป่วยอีกคนหนึ่ง เช่น จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ใส่ภายนอกปากเพิ่มเติมด้วย ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น จึงต้องปรึกษา ทันตแพทย์ ถึงปัญหาของของเหงือกและฟันของเรา ว่าเราต้องใช้เครื่องมือ อะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน เพื่อเตรียมความพร้อม ในเรื่องของค่าใช้จ่าย

ลักษณะความผิดปกติของผู้ป่วย ก่อนที่จะทำการจัดฟัน เราต้องไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์ ปัญหาสุขภาพปากและฟัน และเมื่อผลการตรวจเสร็จสิ้น ทันตแพทย์ ก็จะแนะนำถึงรายละเอียด ของปัญหา แนวทางเลือกในการแก้ไข ขั้นตอนวิธีการ และระยะเวลาในการรักษา ตามปกติผู้ป่วยที่สามารถแก้ไขได้ง่าย และรวดเร็วจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าในรายที่ยุ่งยาก และมีปัญหาที่ซ้ำซ้อน การไปพบทันตแพทย์ จะช่วยให้เรา ทราบถึงสภาพปัญหาของเหงือกและฟันของเรา เพื่อที่จะได้วางแผนการจัดฟัน และค่าใช้จ่าย ในการจัดฟัน

สถานที่ที่ให้บริการ เป็นเรื่องปกติ ที่สถานที่ให้บริการของภาครัฐ มักจะราคาถูกกว่า ภาคเอกชน แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับ นั่นคือ เครื่องมือในการจัดฟัน ของภาคเอกชน มักจะมีความทันสมัย กว่าภาครัฐ เนื่องด้วยนวัตรกรรมต่างๆ ที่มีราคาแพง จึงส่งผลต่อการให้บริการ รวมถึง ความสะดวก และรวดเร็ว ของภาคเอกชน สามารถที่จะนัดหมายเวลา ในการจัดฟัน ตามที่ลูกค้าต้องการ และเลือกทันตแพทย์ ที่จะทำการจัดฟันที่ตนเองมีความเชื่อมั่น แต่สิ่งหนึ่งที่ตามมา คือค่าบริการ ของภาคเอกชน ย่อมแพงกว่า ภาครัฐ แต่ภาคเอกชน ก็จะมีความหลากหลาย ในการให้บริการ หลากหลายรูปแบบในการจัดฟัน ซึ่งในภาครัฐ จะมีข้อกำหนดในการให้บริการที่น้อยกว่า การเลือกรูปแบบต่างๆ ย่อมน้อยกว่า เนื่องด้วย เทคโนโลยีในการจัดฟัน มีมากมาย แล้วแต่งบประมาณของคนไข้ และความพร้อมของสถานบริการ

การจ่ายเงินสำหรับค่าจัดฟัน โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มาปรึกษาทางทันตกรรมจัดฟันครั้งแรก จะต้องจ่ายค่าพิมพ์ปาก ถ่ายรูป และค่าเอกซเรย์ เพื่อวิเคราะห์ถึงความผิดปกติและวางแผนการบำบัดรักษา เมื่อทันตแพทย์ได้อธิบายถึงความผิดปกติและวิธีการรักษาจนเป็นที่ตกลงกันแล้ว ทันตแพทย์ มักจะแนะนำ วิธีการในการจัดฟัน ที่มีหลากหลายรูปแบบ และราคาที่แตกต่า่งกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ คนไข้ ที่มีความพร้อม หรือเลือกรูปแบบการจัดฟัน ที่ตนเองชอบ และเหมาะสม กับการรักษา ที่ทันตแพทย์ แนะนำ เนื่องด้วย แต่ละวิธีของการจัดฟัน ก็จะมีเครื่องมือในการจัดฟัน ที่แตกต่างกัน ระยะเวลาในการจัดฟัน ที่แตกต่างกันด้วย งบประมาณของคนไข้ ที่สามารถจ่ายได้ จึงเป็นตัวเลือกหนึ่ง ในการตัดสินใจเลือกวิธีการในการจัดฟัน

การเตรียมตัวผู้ป่วยก่อนทำ การรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน

การเตรียมพร้อมของสภาพในช่องปาก เนื่องจากสภาวะของฟัน เหงือกและกระดูกที่หุ้มรากฟันมีความสำคัญต่อการจัดฟัน ทั้งระหว่างการจัดฟัน และภายหลังการจัดฟัน การเคลื่อนที่ของฟันจะเป็นไปได้ด้วยดีต่อเมื่อสภาพของฟัน เหงือกและกระดูกที่หุ้มรากฟันอยู่ในสภาพแข็งแรงพอที่จะรองรับแรงจากเครื่องมือหรือการหยุดแรงโดยไม่จำเป็น เพราะอาจมีผลให้ระยะเวลาของการรักษาเนิ่นนานขึ้นหรือซับซ้อนมากขึ้น

หากผู้ป่วย มีปัญหาทันตกรรมด้านอื่นๆร่วมด้วย เช่น ฟันผุ ต้องทำการรักษาก่อน และจำเป็นต้องอุดฟันที่ผุทุกซี่ให้เสร็จสิ้นก่อนการใส่เครื่องมือจัดฟัน และให้ดูลักษณะที่บวมแดงของเหงือก หรือมีเลือดออกตามไรฟัน หรือหินปูนจับตามคอฟัน หรือฟันโยก ที่จะต้องรักษาให้หายก่อน และผู้ป่วยต้องศึกษาวิธีการแปรงฟัน การรักษาความสะอาดของช่องปาก เพราะเมื่อใส่เครื่องมือจัดฟันไปแล้วอาจทำให้การแปรงฟันยากขึ้น รวมทั้งแรงจากเครื่องมืออาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเหงือกและกระดูก อาจรู้สึกเจ็บ ทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าแตะต้องหรือทำความสะอาดฟันบริเวณนั้น ซึ่งไม่ถูกต้อง

ความพร้อมทางด้านสุขภาพ ผู้ที่จะมาใช้บริการจัดฟัน ควรมีสุขภาพโดยรวมที่ดี ไม่มีโรคติดต่อ หรือโรคประจำตัว อันอาจมีผลต่อการจัดฟัน เนื่องด้วย การใช้ยาบางชนิด ในการรักษาโรค อย่างเป็นประจำ อาจส่งผลต่อเหงือก หรือน้ำลายที่อยู่ในช่องปาก รวมไปถึง ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุโดยเฉพาะบริเวณของใบหน้าและศีรษะ การแพ้ยา การแพ้อาหาร ประวัติการเจ็บป่วย ที่ท่านมี ควรแจ้งให้ทันตแพทย์จัดฟันทราบก่อน เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการรักษาและการเลือกใช้เครื่องมือ ที่เหมาะสม

การเตรียมพร้อมด้านสภาวะทางสังคม แน่นอนที่สุดว่า การจัดฟัน มีหลากหลายรูปแบบ ที่แตกต่างกัน เมื่ออยู่ระหว่างการจัดฟัน ก็ต้องดูแลตนเองให้ดี เนื่องด้วย อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟันแต่ละประเภท มีความแตกต่างกัน ในการใส่ จึงอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร การเข้าสังคม ของผู้ที่จัดฟัน ดังนั้น ผู้ที่จะจัดฟัน ต้องเตรียมพร้อมจะใส่เครื่องมือจัดฟันแบบปกติ หรือต้องการเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ทางด้านในปากโดยยึดติดกับฟันทางด้านใกล้สิ้น หรือเครื่องมือที่ติดกับฟันเป็นพลาสติกหรือเซรามิกที่มีสีเหมือนฟันแทนโลหะ หรือเครื่องมือชนิดถอดได้เพื่อให้ผู้ป่วยใส่และถอดได้เอง ต้องเรียนรู้ถึงเครื่องมือ ในแตะละแบบ ของการจัดฟันด้วย เพื่อที่จะวางแผนการใช้ชีวิต ในระหว่างจัดฟัน ได้อย่างเหมาะสมกับตนเอง

8
ซ่อมบำรุงอาคาร: อากาศร้อน ทำให้แอร์ยิ่งทำงานหนักจริงหรือ?

หลายทราบกันดีอยู่แล้วว่า บ้านเราเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนอบอ้าว ยิ่งหน้าร้อนก็ยิ่งร้อนจนทำให้หลายคนอาจจะหงุดหงิด ไม่สบายตัว ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มักจะชื่นชอบอากาศเย็นมากกว่าอากาศร้อน ทำให้ เครื่องปรับอากาศ เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความจำเป็นสำหรับหลายบ้าน เพื่อคลายร้อน แต่ก็ต้องแลกกับการที่เราจะต้องมาเสียค่าไฟ เสียค่าใช้งานจากการที่เราใช้แอร์ เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟเปลืองมากที่สุด และยิ่งต้องมาสู้กับสภาพอากาศบ้านเราแล้วด้วย ต้องบอกเลยว่า ต้องจ่ายค่าไฟมหาศาลในแต่ละเดือน หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ยิ่งเปิดแอร์หน้าร้อน ก็จะยิ่งทำให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น

เพราะต้องสู้กับอากาศที่ร้อน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีเทคนิคหลายอย่างในการใช้งานแอร์ ที่จะทำให้เราสามารถประหยัดไฟไปได้เยอะในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ และสำหรับหลายคนที่สงสัยว่า การที่เราเปิดแอร์ในอากาศที่ร้อนนั้น จะยิ่งทำให้แอร์ทำงานหนักจริงหรือไม่ วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงประเด็นดังกล่าว เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับหลายคนที่ใช้งานแอร์อยู่เป็นประจำ เพราะบางคนอาจะกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่าย คือสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า การเปิดแอร์ในหน้าร้อนหรือในช่วงที่มีอากาศร้อนนั้น ค่าไฟจะพุ่งสูงเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้านนั้น หลายต่อหลายครั้งอาจจะทำงานหนักเกินความจำเป็นเนื่องจากความร้อนและปัจจัยสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน เพื่อประหยัดพลังงานและยืดระยะเวลาการทำงานของเครื่องปรับอากาศไปในตัวควรที่หมั่นดูแลและตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าอากาศร้อนจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะทำให้แอร์ต้องทำงานหนัก แต่ความจริงแล้ว ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักเสียทีเดียว เพราะการที่แอร์ของเราทำงานหนักนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นคอยล์ร้อน ที่อาจจะติดตั้งในฝั่งที่มีแสงแดดส่องถึงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีร่มบังแดดบังฝนอาจจะทำให้เครื่องปรับอากาศร้อนขึ้นได้ง่าย ซึ่งควรที่จะทำพื้นที่ในการบังแดด เพื่อที่จะยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศและมีอากาศเย็นๆ ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่เปิด หรือหากภายนอก มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ติดกับกำพงจนเกินไปหรือมีสิ่งกีดขวางการระบายความร้อนของเครื่องคอมเพรสเซอร์ ลมร้อนที่ถูกส่งออกมาจะถึงส่งกลับเข้าไปอีกครั้งจึงทำให้เครื่องปรับอากาศส่งลมร้อนออกมา

ฉะนั้นควรที่จะเปลี่ยนตำแหน่งใหม่หรือเอาสิ่งกีดขวางออก นอกจากนี้ ผลกระทบที่ส่งผลมากที่สุดคือความร้อนแรงของแสงแดด หากห้องมีผนังที่ค่อนข้างบางล่ะก็จะสามารถทำให้ความร้อนจากแสงแดดเข้ามาสู่ภายในได้ ฉะนั้นหากผนังบ้านบางนั้นควรที่จะหาวัสดุกันความร้อนหรือทาสีกันความร้อนเพื่อบรรเทาความร้อนของบ้านได้ส่วนหนึ่งและทำให้เครื่องปรับอากาศของคุณทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะหลายคนอาจจะรู้สึกว่า ยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ เราก็จะปรับแอร์ให้เย็นมากขึ้น นั่นก็จะทำให้แอร์ทำงานหนัก และเสียค่าไฟไปอย่างเปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ตาม วิธีแรกที่สุดเลย ที่จะช่วยทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ก็คือการล้างทำความสะอาดแอร์ เพราะเมื่อแอร์มีการใช้งานไปนานๆ จะมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวแอร์ และเมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็น ทำงานหนัก

เปลืองไฟมากกว่าเดิม และถ้าฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อน้ำแอร์ก็จะทำให้แอร์มีน้ำหยด การล้างแอร์เบื้องต้นด้วยการทำความสะอาดแผ่นกรองหยาบก็สามารถช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้ดีขึ้น หรือจะให้ช่างแอร์มาล้างให้สะอาดเอี่ยมอ่องก็จะทำให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทั้งนี้เราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสมหรือก่อนติดตั้งควรดูจากหลายปัจจัยที่จะทำให้แอร์ของเรามีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ถ้ามีข้อสงสัยหรืออยากปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ไม่ว่าจะเป็นในอาคาร สำนักงาน หรือในบ้าน ก็สามารถปรึกษาเราได้ ทางเรามีบริการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากยิ่งขึ้น

9
บริหารจัดการอาคาร: ทำไมถึงต้องมีระบบดับเพลิงในอาคาร

ในปัจจุบันมีอาคารสูง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หรือแม้แต่อาคารสำนักงานเกิดขึ้นมากมาย  สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่มีผู้คนเข้าไปใช้พื้นที่มากมาย และถ้าเกิดอุบัติเหตุจากเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาโดยไม่มีการแจ้งเตือนที่ดี ก็อาจนำความเสียหายมาให้สถานที่นั้นๆโดยเฉพาะการสูญเสียชีวิต ดังนั้น ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้จึงเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่สำคัญสำหรับอาคารต่างๆ นั้นหมายความว่า ในขณะมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นภายในอาคาร

ถ้าเรามีระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ดี จะทำให้เรารู้ถึงจุดเกิดเหตุและแจ้งเหตุรวดเร็วสามารถอพยพผู้ทีอยู่อาศัยออกจากพื้นที่ที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้มากขึ้นจนไม่สามารถอพยพได้ ซึ่งปัญหาที่พบในการใช้งานโดยส่วนหนึ่งคือบุคคลทั่วไปยังไม่ค่อยรู้จักอุปกรณ์ และการใช้งานในระบบนี้ เช่น อุปกรณ์มือดึง เป็นอุปกรณ์ที่ดึงเมื่อต้องการแจ้งเหตุในขณะที่มีเพลิงไหม้เกิดขึ้น แต่บางครั้งมีคนที่ไม่รู้ไปดึง ระบบก็จะแจ้งเหตุแต่ไม่มีเหตุเพลิงไหม้

ถ้าเป็นเช่นนี้บ่อยๆ คนที่อาศัยอยู่หรือทั่วไปก็จะไม่เชื่อมั่นในระบบ และถ้าในกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นจริง ระบบมีการแจ้งเหตุแล้วคนก็อาจจะไม่หนีหรืออพยพได้ เพราะฉะนั้น ในศูนย์การค้า หรืออาคารสถานที่ จึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบดับเพลิง เพื่อที่จะได้รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงระบบดับเพลิงภายในอาคารว่ามีความสำคัญอย่างไร และทำไมจะต้องมีระบบดับเพลิงภายในอาคาร

 ก่อนอื่นเราจะต้องมารู้จักกับ ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ก่อน ซึ่งเป็นระบบสำหรับแจ้งเตือนเมื่อมีเปลวไฟ หรือเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคาร โดยใช้เซนเซอร์หรืออุปกรณ์ตรวจจับชนิดต่างๆ ตามความเหมาะสม เช่น อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน อุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือผู้ใช้ เป็นต้น ซึ่งระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้นี้จะทำให้ผู้ที่อยู่ในอาคารสามารถรับรู้และแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ป้องกันไม่ให้ไฟไหม้นั้นลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีระบบดับเพลิงหรือสัญญาณเตือนไฟไหม้ในอาคาร

 อย่างแรกเลยก็คือ ช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน ถือเป็นเหตุผลแรกและเหตุผลหลัก ที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการติดตั้งระบบดับเพลิง เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ทุกครั้ง มักจะเกิดการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย
ซึ่งจะต้องติดตั้งระบบดับเพลิง และระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงจะต้องมีการฝึกซ้อมการใช้งาน และการอพยพ หนีภัย เป็นประจำ และมีการซ่อมบำรุง ตรวจสอบระบบดับเพลิงและระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้า พนักงาน และชุมชนรอบข้าง

ดังนั้น ระบบดับเพลิงในอาคารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของอาคารควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกถึงความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในอาคารเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ การส่งสัญญาณเตือนภัยและระบบควบคุมเพลิง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่แม้ว่าโอกาสเกิดเพลิงไหม้จะมีน้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดและสร้างความเสียหายได้อย่างมาก หากไม่มี ระบบดับเพลิงในอาคารนั้น อาจจะส่งผลเสียและความสูญเสียเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อติดตั้งระบบดับเพลิงในสมัยนี้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอย่างที่คิดและไม่ได้กินพื้นที่ในอาคารมากนัก เรียกได้ว่า ลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ระบบความปลอดภัยที่ดีในระยะยาว เพื่อรักษาทั้งชีวิตและทรัพย์สินเมื่อเกิดเพลิงไหม้ได้

 ดังนั้น หากเจ้าของอาคารต้องการที่จะติดตั้งระบบดับเพลิงหรือสัญญาณเตือนเกิดเหตุไฟไหม้ สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้เพราะเราเป็นผู้ให้บริการติดตั้งระบบดับเพลิง บำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคาร โดยให้บริการจัดการแบบครบวงจร โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและช่างเทคนิคเฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์การทำงาน บำรุงรักษาระดับมืออาชีพ สามารถออกแบบวางแผนการบำรุงรักษาอาคาร รวมถึงการวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่เป็นไปตามมาตรฐานทางวิศวกรรม

เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ความปลอดภัยให้กับผู้ใช้อาคาร เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยของสถานที่เป้นหลัก จึงสามารถให้บริการได้อย่างเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน

10
ไม่ติดฉนวนกันความร้อนโรงงาน กิจการเสี่ยงปัญหาอะไรบ้าง?

ในการประกอบธุรกิจทำโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ผู้ประกอบการมักมีสิ่งจำเป็นที่ต้องโฟกัสหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพของเครื่องจักร วิธีการทำงานในกระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพในการทำงาน และการขายสินค้า ตลอดจนการจัดส่งสินค้าให้ได้ทันตามกำหนด ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลต่อผลประกอบการโดยตรง

แต่อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเรื่องที่กล่าวมาแล้ว การติด “ฉนวนกันความร้อน” ก็ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่โรงงานไม่ควรมองข้าม เพราะแม้จะดูเหมือนเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร แต่ความเป็นจริงแล้วมีผลโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหากละเลยไปจะก่อให้เกิดผลเสียหลาย ๆ ด้าน ดังต่อไปนี้

1.ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น

หน้าที่สำคัญของฉนวนกันความร้อน คือ การลดความร้อนไม่ให้สะสมภายในพื้นที่ต่าง ๆ ของโรงงาน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นความร้อนที่ทะลุผ่านมาทางหลังคาโรงงาน ความร้อนจากห้องเครื่องจักรต่าง ๆ เมื่อมีการสะสมเข้าสู่พื้นที่มากเกินไป เครื่องจักรจะทำงานอย่างหนักมากขึ้น เครื่องปรับอากาศเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในโรงงานจะทำงานหนักขึ้น จนสูญเสียพลังงานไปมากขึ้น ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นกว่าเดิมมาก จนส่งผลต่อต้นทุนการผลิตที่อาจทำให้กำไรหดหาย หรือพลิกเป็นขาดทุนได้แบบไม่ทันตั้งตัว

2.เสี่ยงสูญเสียค่าซ่อมบำรุงหนัก จนถึงกระบวนการผลิตหยุดชะงัก

เมื่อเครื่องจักร ตลอดจนระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในโรงงานทำงานหนักมากขึ้นเพราะไม่มีฉนวนกันความร้อนช่วยป้องกันความร้อนสะสม สิ่งที่ตามมาคือ โอกาสในการเสื่อมสภาพชำรุดเสียหายของเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดจะมีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สูญเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง โดยยิ่งเป็นการชำรุดของเครื่องจักรสำคัญ ก็ยิ่งเสียงบประมาณก้อนใหญ่ขึ้น

ในขณะเดียวกันหากเสียหายรุนแรง ก็จะทำให้กระบวนการผลิตต้องหยุดชะงัก จนอาจส่งผลต่อการผลิตสินค้าไม่ทันกำหนด จัดส่งไม่ทันกำหนดได้ ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่รุนแรงมาก

3.เสี่ยงทำให้พนักงานเกิดอุบัติเหตุอันตราย

โรงงานอุตสาหกรรมที่สะสมความร้อนมากเกินไป พนักงานจะทำงานได้อย่างยากลำบาก เพราะร้อนอึดอัด ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยตรง หรือหากความร้อนสะสมสูงมาก ๆ พนักงานอาจเจ็บป่วย เป็นลม และพลาดทำให้เกิดอุบัติเหตุในการทำงานที่อาจส่งผลเสียหายต่อชีวิต อวัยวะ และทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งประเมินค่าไม่ได้

นอกจากนั้นแล้ว บริเวณพื้นผิวของเครื่องจักร ท่อน้ำย้อน น้ำเย็น ท่อลมต่าง ๆ ที่มีความร้อนสูง หากไม่มีฉนวนกันความร้อนหุ้มเอาไว้เลย ก็เสี่ยงพนักงานสัมผัสถูกจนเป็นอันตรายได้ ดังนั้น การติดตั้งฉนวนกันความร้อน ในจุดสำคัญต่าง ๆ ของโรงงาน จึงเป็นหนึ่งในหนทางช่วยสร้างความปลอดภัย และทำให้เกิดบรรยากาศในการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยตรง

4.เสี่ยงผิดกฎหมายได้

ในแง่ของความร้อนสะสมภายในโรงงานที่มากเกินไปนั้น กฎหมายได้มีการกำหนดไว้เช่นกัน เพราะถือเป็นการจัดระเบียบสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ หากพนักงงานได้รับการบาดเจ็บ หรือล้มป่วยจากปัญหาความร้อนในโรงงาน ก็จะมีการตรวจสอบ ฟ้องร้องกันขึ้นได้

ซึ่งหากตรวจพบว่าโรงงานร้อนเกินกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยที่ไม่ได้มีแนวทางาแก้ไข หรือป้องกันสวัสดิภาพของพนักงานตามที่ควรจะเป็น ก็จะเกิดผลเสียหายตามมาภายหลังได้อีก ดังนั้น ฉนวนกันความร้อนจึงเป็นสิ่งที่โรงงานจะขาดไม่ได้

จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ฉนวนกันความร้อน คือผลิตภัณฑ์จำเป็นสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยในการลดต้นทุน ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากความร้อนสะสมภายในโรงงาน

ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการท่านใด ที่ต้องการวางแผนติดตั้งฉนวนกันความร้อน เพื่อให้ตอบโจทย์และเหมาะสมกับรูปแบบของโรงงานมากที่สุด การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง จะช่วยให้เลือกฉนวนได้อย่างมีคุณภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด

11
ประเภทท่อลมร้อน ในโรงงาน ที่ควรรู้

ในโรงงานอุตสาหกรรม มีท่อลมร้อนหลายประเภทที่ควรทราบ เพื่อเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะงาน ดังนี้:

1. แบ่งตามวัสดุ:

ท่อโลหะ:
ท่อเหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel Duct): นิยมใช้มากที่สุดในโรงงานทั่วไป เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อความร้อนและอุณหภูมิสูง ทนต่อแรงกระแทก และป้องกันสนิมได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน
ท่อสแตนเลส (Stainless Steel Duct): มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง เหมาะสำหรับโรงงานที่มีความชื้น สารเคมี หรือต้องการความสะอาดสูง เช่น โรงงานอาหารและยา
ท่ออลูมิเนียม (Aluminum Duct): น้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อน แต่ความแข็งแรงอาจน้อยกว่าเหล็ก เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการรับแรงมากนัก
ท่อพลาสติก:
ท่อ PVC/PPR: ทนทานต่อสารเคมีและมีความยืดหยุ่น แต่ทนความร้อนได้จำกัดกว่าท่อโลหะ เหมาะสำหรับงานที่มีอุณหภูมิไม่สูงมากนัก หรือใช้ในระบบระบายอากาศ
ท่อผ้าใบ/ท่ออ่อน (Flexible Duct/Fabric Duct): มีความยืดหยุ่นสูง ปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในการติดตั้ง หรือต้องการลดเสียงและการสั่นสะเทือน มักใช้ร่วมกับพัดลมหรือเครื่องจักร

2. แบ่งตามลักษณะการใช้งาน:

ท่อส่งลมร้อน (Supply Air Duct): ทำหน้าที่ส่งลมร้อนจากเครื่องทำความร้อนไปยังพื้นที่ต่างๆ ในโรงงาน
ท่อลมร้อน-ท่อยืด (Fabric Expansion Joint/Hot Air Blower Hose): ออกแบบมาเพื่อรองรับการเคลื่อนตัว การขยาย/หดตัวของท่อเนื่องจากอุณหภูมิ ลดเสียงและการสั่นสะเทือน มักใช้เชื่อมต่อระหว่างเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีการเคลื่อนไหว
ท่อระบายอากาศร้อน (Exhaust Air Duct): ใช้ระบายอากาศร้อน ไอเสีย หรือมลพิษออกจากพื้นที่ในโรงงาน
ท่อดูดอากาศร้อน: ใช้ดูดอากาศร้อนจากกระบวนการผลิต หรือเครื่องจักรเฉพาะจุด

3. สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม:

ฉนวนกันความร้อน: เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน ควรเลือกท่อลมที่มีฉนวนหุ้ม หรือติดตั้งฉนวนเพิ่มเติม (เช่น ฉนวนใยแก้ว, ฉนวนใยหิน) โดยเฉพาะท่อที่เดินในบริเวณที่ไม่ได้ต้องการทำความร้อน
การป้องกันการรั่วซึม: รอยต่อของท่อต้องแน่นหนาเพื่อป้องกันการรั่วไหลของลมร้อน ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและลดประสิทธิภาพของระบบ
การออกแบบระบบ: การออกแบบระบบท่อลมร้อนที่เหมาะสมกับความต้องการของโรงงานเป็นสิ่งสำคัญ ควรปรึกษาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ
การบำรุงรักษา: การตรวจสอบและบำรุงรักษาท่อลมร้อนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของระบบ

การเลือกประเภทท่อลมร้อนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อุณหภูมิใช้งาน, ความดัน, สภาพแวดล้อม, งบประมาณ และความต้องการเฉพาะของแต่ละโรงงาน ดังนั้น การทำความเข้าใจประเภทต่างๆ ของท่อลมร้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ



12
การขายอาหารตามสั่งหลังเลิกงานทำเป็นอาชีพเสริม สามารถทำกำไรได้สูงหากทำอย่างถูกต้อง

ในเศรษฐกิจยุคปัจจุบันหลายคนกำลังมองหาวิธีหารายได้พิเศษ ทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งคือการจำหน่ายอาหารตามสั่งหลังเลิกงาน ธุรกิจประเภทนี้มีความยืดหยุ่น ต้องใช้เงินลงทุนต่ำและสามารถทำกำไรได้สูงหากทำอย่างถูกต้อง หากคุณชื่นชอบการทำอาหารและต้องการเปลี่ยนทักษะของคุณให้เป็นธุรกิจเสริม แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

นี่คือวิธีเริ่มต้น
1. เลือกเมนูของคุณอย่างชาญฉลาด
เนื่องจากคุณจะต้องทำอาหารหลังเลิกงาน จึงควรเลือกเมนูอาหารที่เรียบง่ายแต่แสนอร่อย เลือกเมนูที่ทำง่ายแต่ยังคงดึงดูดลูกค้าได้ เมนูยอดนิยม ได้แก่:
อาหารผัดต่างๆ เช่น ไก่กะเพรา หมูกระเทียม ข้าวผัด
ไข่เจียวสไตล์ไทย
อาหารประเภทเส้น เช่น ผัดไทย ผัดหมี่
ทางเลือกที่รวดเร็วและดีต่อสุขภาพสำหรับลูกค้าที่ยุ่งวุ่นวาย
ควรพิจารณาเสนอเมนูเด็ดๆ สักเล็กน้อย ที่จะทำให้เมนูของคุณโดดเด่นกว่าเมนูอื่นๆ

2. ค้นหาสถานที่ที่เหมาะสม
ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมสามารถสร้างหรือทำลายธุรกิจของคุณได้ หากเป็นไปได้ ควรตั้งแผงขายอาหารเล็กๆ ใกล้บ้าน ถนนที่พลุกพล่าน หรือตลาดท้องถิ่น ทำเลที่ตั้งที่ดีอื่นๆ ได้แก่:
ใกล้สำนักงานหรือโรงเรียน
บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อหรือปั๊มน้ำมัน
ออนไลน์ มีบริการส่งอาหารผ่านแอป
หากการเช่าพื้นที่มีราคาแพงเกินไป ควรพิจารณาขายจากที่บ้านและเสนอบริการรับสินค้าหรือจัดส่ง

3. วางแผนตารางเวลาและเตรียมตัวล่วงหน้า
เนื่องจากคุณต้องทำงานหลังเลิกงาน การจัดการเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือเคล็ดลับบางประการ:
เตรียมวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าเพื่อประหยัดเวลาในการปรุงอาหาร
ใช้เนื้อสัตว์หมักและผักหั่นแล้ว
จัดทำเวิร์กโฟลว์การปรุงอาหารที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

4. ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมต
โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้า สร้างตัวตนออนไลน์บน Facebook, Instagram หรือ TikTok เพื่อแสดงอาหารและเมนูประจำวันของคุณ คุณยังสามารถ:
เสนอโปรโมชั่นและส่วนลดให้กับลูกค้าใหม่
ถ่ายรูปอาหารของคุณให้มีคุณภาพดี
กระตุ้นให้ลูกค้าที่พึงพอใจเขียนรีวิว

5. รักษาคุณภาพและสุขอนามัย
เพื่อสร้างฐานลูกค้าที่ภักดี ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสะอาดของอาหารอยู่เสมอ ใช้ส่วนผสมที่สดใหม่และปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่เหมาะสม ลูกค้าที่พึงพอใจจะกลับมาและแนะนำอาหารของคุณให้กับผู้อื่น

6. เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ และค่อยๆ ขยายออกไป
อย่ารู้สึกกดดันที่จะต้องลงทุนมากเกินไปในช่วงเริ่มต้น เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าที่เรียบง่ายและค่อยๆ ขยายขึ้นตามความต้องการ เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น คุณสามารถ:
เพิ่มรายการเมนูเพิ่มเติม
จ้างคนช่วยทำอาหารหรือส่งของ
ลองเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในอนาคต

การขายอาหารตามสั่งหลังเลิกงานเป็นวิธีที่ดีในการหารายได้พิเศษในขณะที่ทำสิ่งที่คุณชอบ ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ การจัดการเวลาที่ดี และอาหารที่มีคุณภาพ คุณสามารถเปลี่ยนงานเสริมนี้ให้กลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ เน้นที่ความพึงพอใจของลูกค้า และเฝ้าดูธุรกิจของคุณเติบโต

13
10 อาการโรคเบาหวานเริ่มต้น-อันตราย เป็นแล้วรักษาไม่หายขาด!

กินเยอะเหมือนเดิม แต่น้ำหนักลดฮวบ! แน่ใจนะคะว่าไม่ใช่ “อาการเบาหวาน” ?! หลายคนชะล่าใจกับโรคเบาหวาน ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วพฤติกรรมการใช้ชีวิตหลาย ๆ อย่าง มักก่อให้เกิดโรคเบาหวานแบบไม่รู้ตัว แถมเมื่อเป็นแล้วยังรักษาไม่หายขาดด้วย ลองมาเช็ก 10 อาการเบาหวานเริ่มต้น จนถึงระยะอันตราย เพื่อที่จะได้สังเกตตนเองและคนในครอบครัวค่ะ

เนื่องจากเบาหวานระยะแรกนั้น แทบจะไม่มีความรุนแรง จึงมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมากกว่าครึ่ง มักไม่รู้ตัว ว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน และเข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น ๆ ทำให้ไม่สามารถดูแลรักษาตัวเองได้ทัน จนกลายเป็นเบาหวานแบบไม่รู้ตัว โดยอาการเบาหวานเริ่มแรกหรือเริ่มต้น ไปจนถึงระยะอันตราย สามารถสังเกตได้ ดังนี้

อาการเบาหวาน เริ่มต้น

    ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ตอนกลางวันมากกว่าวันละ 6-8 ครั้ง กลางคืนมากกว่า 1-2 ครั้ง (โดยเฉพาะคนที่ต้องตื่นมาฉี่หลังจากหลับไปแล้วหลายครั้ง)
    หิวน้ำบ่อย กระหายน้ำหรือขาดน้ำ
    กินจุมากขึ้น หิวบ่อย แต่น้ำหนักลดฮวบ
    รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หายใจเหนื่อยหอบ
    คลื่นไส้อาเจียน
    คันตามผิวหนัง
    เป็นแผลง่าย เป็นแล้วหายช้ากว่าปกติ
    สายตาพร่ามัว การมองเห็นแย่ลง
    ชาตามปลายมือ ปลายเท้า
    ซึมลง หมดสติ

อยากรู้ว่าน้ำตาลในเลือดสูงไหม? ต้องตรวจด้วยเครื่องนี้!!!

โรคเบาหวาน เกิดจากอะไร?

         โรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติทางร่างกาย เนื่องมาจากตับอ่อนมีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น และหากไม่ควบคุมระดับน้ำตาล อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้  ซึ่งสามารถแบ่งประเภทผู้ป่วยเบาหวานได้ ดังนี้

ชนิดของเบาหวาน

    เบาหวานชนิดที่ 1 ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
    เบาหวานชนิดที่ 2 ผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน (ภาวะดื้ออินซูลิน)
    เบาหวานชนิดที่ 3 เกิดจากกรรมพันธุ์หรือโรคบางอย่าง เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ ความผิดปกติของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต
    เบาหวานชนิดที่ 4 เกิดขณะตั้งครรภ์ แต่เมื่อคลอดแล้วเบาหวานก็จะหายไป แต่ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นเบาหวานซ้ำได้อีกในอนาคต

เตือน! เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภัยร้ายที่คุณแม่ทุกคนควรระวัง เสี่ยงอันตรายทั้งแม่และลูก!!!

สาเหตุโรคเบาหวาน

    ชอบทานอาหารรสจัด รสจัดในที่นี้ นอกจากหวานจัดแล้ว อาหารเค็มจัดและมันจัด ก็ทำให้เสี่ยงเป็นเบาหวานได้เช่นกัน เพราะอาหารเหล่านี้เมื่อทานมาก ๆ จะทำให้เสี่ยงเกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการเกิดโรคเบาหวาน เพราะฉะนั้นแล้ว การ กินของหวาน เสี่ยงเป็นเบาหวาน ได้นะคะ
    ความเครียด ความเครียดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา และไปกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของน้ำตาล ดังนั้น เมื่อเราเครียดมาก ๆ ระดับน้ำตาลในเลือดก็ยิ่งสูงมากขึ้นนั่นเอง
    ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ตับทำงานหนัก และเกิดการสะสมของไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในตับ เกิดภาวะไขมันเกาะตับ ส่งผลให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน และการสูบบุหรี่ ยังทำให้การทำงานของอินซูลินแย่ลง เป็นสาเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงนั่นเอง
    ไม่ยอมออกกำลังกาย เพราะโรคเบาหวาน ทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินเป็นพลังงานได้อย่างเต็มที่ การออกกำลังกายที่พอเหมาะ จึงช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลิน และควบคุมระดับน้ำตาลไม่ให้สูงขึ้นได้
    ปล่อยตัวเองให้อ้วน น้ำหนักเกิน ไขมันสะสม ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก จะมีระดับคอเรสเตอรอลสูงกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งทำให้ตับอ่อนทำงานหนัก และเสื่อมเร็ว ส่งผลให้ร่างกายผลิตอินซูลินได้น้อยลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หากร่างกายไม่มีการนำเอาพลังงานจากน้ำตาลมาใช้ อาจเสี่ยงระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเป็นเบาหวานในที่สุด

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

ในความเข้าใจของใครหลาย ๆ คน อาจคิดว่าโรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ต้องบอกเลยว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยอายุน้อยตั้งแต่ 15-25 ปีเป็นโรคเบาหวานมากขึ้นอย่างน่าตกใจ ดังนั้น ถึงแม้คุณจะอายุไม่ถึง 60 ปี ก็เสี่ยงมีอาการเบาหวานได้เหมือนกันค่ะ โดยเบาหวานแต่ละชนิด

โรคเบาหวาน สาเหตุ

    ผู้ที่ชอบทานกินเค็ม หรือหวานจัด และชอบของทอดของมัน (เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด)
    เป็นโรคอ้วน (ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่)
    อายุ 35 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันเบาหวาน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
    เป็นโรคความดันโลหิตสูง
    คนในครอบครัว (ทางสายเลือด) มีประวัติการเป็นเบาหวานมาก่อน
    ไม่ออกกำลังกาย
    สูบบุหรี่ ติดสุรา
    ตั้งครรภ์ ในบางคนโรคเบาหวานจะหายไปหลังคลอด แนะนำให้อ่าน : เตือน! เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภัยร้ายที่คุณแม่ทุกคนควรระวัง เสี่ยงอันตรายทั้งแม่และลูก!!!

หนึ่งวันควรกินน้ำตาลเท่าไหร่ ถึงจะไม่เสี่ยงเบาหวาน

         น้ำตาลให้พลังงานก็จริง แต่ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้น การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็น จะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าผลดีนะคะ โดยน้ำตาลที่ร่างกายควรได้รับต่อวันนั้น ขึ้นอยู่กับอายุด้วยค่ะ เนื่องจากความต้องการพลังงานและความสามารถในการเผาผลาญนั้นต่างกัน ดังนี้ค่ะ

อายุ             น้ำตาลที่เหมาะสมต่อวัน   พลังงานที่ใช้ต่อวัน

อายุ 6 – 13 ปี   ไม่เกิน 4 ช้อนชา   1600 kcal
อายุ 14 – 25 ปี   ไม่เกิน 6 ช้อนชา   2000 kcal
ผู้หญิง
อายุ 25 – 60 ปี   ไม่เกิน 4 ช้อนชา   1600 kcal
ผู้ชาย
อายุ 25 – 60 ปี   ไม่เกิน 6 ช้อนชา   2000 kcal
อายุ 60 ปี ขึ้นไป   ไม่เกิน 4 ช้อนชา   1600 kcal
ผู้ที่ต้องใช้พลังงานมาก
(เช่นนักกีฬา)   ไม่เกิน 8 ช้อนชา   2400 kcal

         ในปัจจุบัน คนไทยจำนวนมาก กินน้ำตาลเยอะขึ้นทุกวันโดยไม่รู้ตัว เห็นได้จากชานมไข่มุก ที่เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทย รู้หรือไม่คะว่า ในหนึ่งแก้วมีน้ำตาลสูงถึง 8 – 11 ช้อนชา! แม้จะรู้ว่าน้ำตาลสูงแค่ไหน แต่หลาย ๆ คนก็ยังคงเลือกที่จะดื่มมันอยู่ใช่ไหมล่ะคะ แต่ยิ่งดื่มมาก ๆ ก็ยิ่งเสี่ยงเป็นเบาหวานได้

เห็นได้จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ผลตรวจของหญิงวัย 46 ปีรายหนึ่ง ที่มีระดับน้ำตาลสูงจนน่าตกใจ จากการซักถามประวัติพบว่า “เธอดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำทุกวัน ทำให้เธอเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด” และนั่นก็เป็นอาการเบาหวาน ซึ่งมาจากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูงมาก โรคเบาหวาน สาเหตุ หนึ่งก็เกิดมาจากการทานของหวานนี่แหละค่ะ ดังนั้นของหวานถ้าเลิกไม่ได้ก็ควรบริโภคแต่พอดีนะคะ

โรคเบาหวาน สาเหตุ

อีกหนึ่งความเชื่อที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน คือ “เบาหวานไม่เห็นน่ากลัว เป็นแล้วเดี๋ยวก็หาย ใคร ๆ ก็เป็น” ขอบอกเลยค่ะว่าเป็นความเชื่อที่ผิด! เพราะในความเป็นจริงแล้ว เบาหวานเป็นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถดีขึ้นได้หากควบคุมระดับน้ำตาล และได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ

หลายคนมีพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ แม้ว่าคนในครอบครัวจะไม่มีประวัติการเป็นเบาหวานมาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสิทธิ์เป็นเบาหวานนะคะ
ติดกินเค็ม หวาน มัน เสี่ยงโรคอะไรบ้าง

กินน้ำตาลอย่างไร ให้ห่างไกลเบาหวาน
แม้จะรู้ว่าโรคเบาหวาน สา่เหตุ มาจากพฤติกรรมการทานอาหาร โดยเฉพาะของหวานที่หลายคนไม่สามารถหยุดทานได้ใช่ไหมล่ะคะ จริง ๆ น้ำตาลไม่ใช่ของต้องห้ามนะคะ เพราะร่างกายเองก็ยังคงต้องการน้ำตาลอยู่ เพียงแต่เราต้องควบคุมปริมาณให้เหมาะสมเท่านั้นเองค่ะ โดยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคน้ำตาล เพื่อเลี่ยงเบาหวานได้ ดังนี้

วิธีป้องกันโรคเบาหวาน

    เลือกทานอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป เพราะอาหารเหล่านี้ มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูง
    เลือกเครื่องดื่มที่มีสูตรน้ำตาลน้อย หรือไม่ผสมน้ำตาลแทน
    หลีกเลี่ยงการทานผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน ลำไย
    จำกัดปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน

สรุป โรคเบาหวาน

แม้พันธุกรรม เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เสี่ยงทำให้เป็นเบาหวาน แต่รู้หรือไม่ว่า โรคเบาหวาน สาเหตุ หลัก ๆ มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราเอง ที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน หากใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหมดนี้ หมั่นสังเกตอาการเบาหวาน และรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองตั้งแต่วันนี้ ดีกว่ามานั่งรักษาไปตลอดชีวิตนะคะ

14
Covid-19 ติดซ้ำได้ไหม? หายแล้วต้องทำอย่างไรต่อ ฉีดวัคซีนได้ตอนไหน

 “โควิดติดซ้ำได้ไหม”

“ทำ Home Isolation ที่บ้านอย่างไรให้ปลอดภัย”

“กักตัวครบแล้ว ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร”

“หายป่วยจากโควิดแล้ว ฉีดวัคซีนได้ตอนไหน”

“ฉีดวัคซีนหลายชนิดปนกัน จะเป็นอันตรายไหม”

“ดูแลตัวเองอย่างไรให้รอดจากโควิดซีซั่นนี้”

Covid ติดซ้ำได้ไหม?

โดยปกติแล้ว ข้อมูลการติดเชื้อโควิดซ้ำๆ ก่อนหน้าที่จะมีโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเกิดขึ้นมา ได้มีการเก็บข้อมูลมาเป็นระยะ พบว่า ภายในระยะเวลา 1 เดือน หลังจากที่ได้รับเชื้อมาแล้วผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อมาจะยังไม่มีการติดเชื้อซ้ำ ภายใน 1 เดือน หรือ 4 สัปดาห์ แต่หากเลยระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สามารถมีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้ โดยความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้ำจะมีเทียบเท่ากันกับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน

ประกอบกับการได้รับวัคซีน จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้ำได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยพบว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับเข็มที่ 3 หรือ เข็มที่ 4 จะสามารถช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากโควิด-19 ได้ 2-3 เท่า (อ้างอิงข้อมูลจาก: วารสารทางการแพทย์นิว อิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซิน, ประเทศอิสราเอล)

แต่สำหรับโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ได้มีการพบข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการติดเชื้อซ้ำ โดยพบผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อซ้ำภายใน 1-2 เดือนแรกหลังจากที่ได้รับเชื้อมา โดยวิธีในการพิสูจน์การติดเชื้อซ้ำ ดูได้จากค่า CT (Cycle threshold) หรือ ค่าการเพิ่มของสารพันธุกรรมไวรัสโควิด จากการตรวจ RT-PCR พบว่า มีค่าลดลง และมีอาการขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่ผู้ป่วยไม่มีไข้ กลับมามีไข้สูงอีกครั้ง โดยจากการศึกษาข้อมูลทั่วโลกพบว่า มีการติดเชื้อซ้ำได้ภายใน 1-2 เดือนแรก มากถึง 10-20%

Home Isolation เมื่อต้องกักตัวที่บ้าน จะอยู่ร่วมกับผู้ไม่ติดเชื้ออย่างไรให้ปลอดภัย

Covid-19 มีระยะเวลาในการแพร่เชื้อสูงสุด คือ ช่วง 2 วันก่อนที่จะมีอาการ ไปจนถึง 5 วันหลังมีอาการ หลังจากนั้นความเสี่ยงในการแพร่เชื้อจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เมื่อระยะเวลาผ่านไป

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเยอะ เช่น ไอมาก ไข้สูง ปอดอักเสบ น้ำมูกเยอะ จะสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการเลย อีกกรณีหนึ่ง คือ ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง จะมีโอกาสในการแพร่เชื้อได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น ได้แก่

    ผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
    เด็ก ที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี
    ผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง เช่น
        ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
        ผู้ป่วยที่ต้องล้างไต
        ผู้ป่วยปลูกถ่ายไขกระดูก
        ผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยากดภูมิ
        ผู้ป่วย HIV (ที่มี CD4 ต่ำกว่า 200 / ผู้ป่วยขาดยา)

สำหรับกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง จะสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่าปกติ ในบางรายสามารถแพร่เชื้อได้นานมากกว่า 30-50 วัน

คุณหมอเตือน อันตรายแค่ไหน? หากผู้ป่วยโรคเบาหวานติดเชื้อโควิด

โควิด-19 ติดต่อทางไหน? การแพร่เชื้อโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือ การติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่ง (Droplet) ถือเป็นช่องทางหลักโดยคิดเป็นร้อยละ 80-90 ไม่ว่าจะผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ละอองฝอยจากผู้ป่วย รองลงมาคือ การติดต่อผ่านการสัมผัส (Contact) การหยิบเอกสาร หรือสิ่งของส่งให้กัน ผู้ที่สัมผัสเชื้อเอามือไปสัมผัสใบหน้า จมูก ตา ปาก ซึ่งเป็นช่องทางในการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจ

ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องทำ Home Isolation

ผู้ติดเชื้อไม่ว่ามีอาการมากหรืออาการน้อย ควรแยกตัวอยู่ในห้องคนเดียว เป็นระยะเวลา 7-10 วัน
แยกการใช้ห้องน้ำส่วนตัว (ถ้าเป็นไปได้) ในกรณีที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้อื่นในบ้าน ให้ใช้ห้องน้ำเป็นคนสุดท้าย แล้วทำความสะอาด ปิดฝาชักโครกทุกครั้งก่อนกดชักโครก
หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับคนในบ้านโดยที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย
รับประทานอาหารคนเดียว ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น แยกของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน
ติดต่อผู้อื่นในบ้านให้น้อยที่สุด หากต้องพูดคุยกันให้รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1.5 – 2 เมตร  โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ไม่อยู่รวมกันกับผู้อื่นในบ้าน พื้นที่อับอากาศ หรือห้องที่ปิดมิดชิด ควรจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี

กักตัวครบแล้ว ต้องทำอย่างไรต่อไปดี?

“กักตัวครบ 10 วันแล้ว หายป่วยแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อดี ปลอดภัยสำหรับคนอื่นหรือยัง” คุณหมอจะขอแบ่งออกเป็น 2 กรณีด้วยกัน ดังนี้

กรณี 1: หากไม่มีอาการใดๆ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

กรณี 2: หากมีอาการแสดง เช่น ไอ หรือ ไอมีเสมหะปนเลือด เดิมไม่มีไข้แต่กลับมามีไข้ใหม่ มีไข้ต่อเนื่องนานตลอด 10 วันที่กักตัว เหนื่อยมากขึ้น ท้องอืด ท้องเสีย แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการ

ปลอดภัยสำหรับคนรอบข้างหรือยัง? ในกรณีที่ภูมิคุ้มกันปกติ ไม่มีอาการดังกล่าวข้างต้น ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนรอบข้างแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องทำการตรวจ RT-PCR ซ้ำ เพราะความเสี่ยงในการแพร่เชื้อจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อผ่านไป 7-10 วัน

หากต้องอยู่ร่วมกันกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน สามารถตรวจ ATK อีกครั้ง เมื่อครบ 10 วัน ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อกักตัวครบ 10 วัน หากตรวจ ATK ผลตรวจที่ได้มักจะเป็น ผลลบ (-) หรือผลบวก (+) มีลักษณะเป็น 2 ขีดจางๆ ซึ่งดังกล่าว ถือเป็น “ซากเชื้อ” ไม่สามารถแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้

ในผู้ป่วยบางราย อาจพบผลตรวจ ATK เป็นผลบวก (+) มีลักษณะ 2 ขีดเข้ม ในกรณีนี้ แนะนำให้แยกตัวออกจากผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อ อีกอย่างน้อย 7 วัน และทำการตรวจ ATK ซ้ำอีกติดกันเป็นเวลา 2 วัน โดยในช่วง 7 วันนี้ ควรแยกตัวจากผู้อื่น รับประทานอาหารคนเดียว และไม่ไปคลุกคลีใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้กับกลุ่มเสี่ยงข้างต้น

ตรวจโควิด-19 RT-PCR vs ATK ต่างกันอย่างไร?

ฉีดวัคซีนได้ตอนไหน?

สำหรับการฉีดวัคซีน เป็นคำถามที่หมอพบบ่อยมาก และผู้ป่วยค่อนข้างมีความสับสนเกี่ยวกับการรับวัคซีน ผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 จำเป็นจะต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีก เมื่อครบระยะกักตัวแล้วควรไปรับวัคซีน โดยมีคำแนะนำเกี่ยวกับการรับวัคซีน ดังนี้

    กลุ่มที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
        ควรไปรับวัคซีนเข็มที่ 1 หลังจากครบระยะกักตัว (ถ้าไม่มีอาการใดๆ) และรับวัคซีนให้ครบโดส
        รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
    กลุ่มที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
        ได้รับวัคซีน (เข็มที่ 2) มาแล้วเกินระยะเวลา 3 เดือน สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) เมื่อครบระยะเวลา 1 เดือน หลังจากวันที่พบเชื้อ

(หมายเหตุ)

    หากอยู่ในระยะกักตัว ไม่แนะนำให้ไปรับวัคซีน ควรรอจนพ้นระยะก่อน
    หากได้รับวัคซีนในขณะที่ติดเชื้อ แบบไม่มีอาการโดยไม่รู้ตัว ไม่มีผลอันตรายใดๆ
    ผู้ที่เคยป่วยเป็นโควิด-19 มาก่อน ไม่มีผลอันตรายเพิ่มขึ้นจากการรับวัคซีน

ฉีดวัคซีนหลายชนิดปนกัน จะเป็นอันตรายไหม?

อย่างที่เราทราบกันดีว่าปัจจุบัน ประชาชนในประเทศไทยมีการรับวัคซีนหลายชนิดปนกัน ไม่ว่าจะเป็น วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Vaccines) วัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Viral Vector Vaccines) วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA Vaccine) จากการศึกษายังไม่พบหลักฐานว่า การรับวัคซีนหลายชนิดปนกันเป็นอันตราย แต่การไม่รับวัคซีนอาจเกิดอันตรายจาก Covid-19 ได้ เพราะทำให้เกิดปอดอักเสบ และนำไปสู่การเสียชีวิตได้

Covid-19 เราต้องรอด!

เอาตัวรอดอย่างไรจากโควิดซีซั่นนี้? โควิดที่ว่าน่ากลัว ยังไม่น่ากลัวเท่าลองโควิด (Long Covid) โดยอาการส่วนใหญ่ที่มักพบในผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว มักมีอาการไอมาก ผิวแห้ง ผมร่วง และประจำเดือนมาเลื่อนไปในผู้ป่วยสุภาพสตรี

Post Covid-19 Condition อาการที่พบได้หลังหายจากโควิด-19

สำหรับคำแนะนำในการดูแลป้องกันตนเองยังคงเหมือนเดิมเหมือนอย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่จะเพิ่มเติมในรายละเอียด ดังนี้

ฉีดวัคซีนให้ครบโดส และรับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3 และเข็มที่ 4)
ใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี โดยใส่ให้แนบหน้าครอบตั้งแต่จมูกถึงคาง
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้ากากในระหว่างวัน และเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อยๆ
หมั่นล้างมืออยู่เสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ
ให้เช็ดทำความสะอาดสิ่งของที่ได้รับมาจากพัสดุ ก่อนใช้งานทุกครั้ง

15
เลือกงของตกแต่งบ้านเป๊ะ ก็เสกบ้านสไตล์ที่ใช่ได้

การตกแต่งบ้านด้วยของประดับตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มให้บ้านมีชีวิตชีวาและสะท้อนสไตล์ที่เป็นคุณได้อย่างชัดเจน เพราะของตกแต่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของบ้านได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนมากมาย ลองมาดูกันว่าของตกแต่งแต่ละประเภทจะช่วยสร้างบ้านในสไตล์ที่คุณต้องการได้อย่างไร


1. รูปภาพและกรอบรูป

การเลือกภาพและกรอบรูปสามารถกำหนดสไตล์ของห้องได้อย่างชัดเจน

สไตล์มินิมอล หรือ สแกนดิเนเวียน: เลือกภาพวาดแนว Abstract, ภาพวาดธรรมชาติ หรือภาพขาวดำในกรอบไม้สีอ่อน หรือกรอบสีดำเรียบๆ

สไตล์คลาสสิก หรือ วินเทจ: เลือกภาพวาดสีน้ำมัน, ภาพบุคคล หรือภาพวิวทิวทัศน์ในกรอบรูปสีทองหรือกรอบไม้แกะสลัก


2. โคมไฟ

โคมไฟไม่ได้มีแค่หน้าที่ให้แสงสว่าง แต่ยังเป็นของตกแต่งที่สร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี

สไตล์โมเดิร์น: เลือกโคมไฟตั้งพื้นที่มีรูปทรงเรียบง่าย, โคมไฟเพดานที่มีดีไซน์ทันสมัย และใช้วัสดุอย่างโลหะหรือกระจก

สไตล์ลอฟท์: เลือกโคมไฟที่ทำจากวัสดุที่เป็นเหล็ก, มีรูปทรงดิบๆ หรือโคมไฟที่มีหลอดไฟเปลือย

สไตล์วินเทจ: เลือกโคมไฟที่ทำจากแก้วหรือโคมไฟระย้าดีไซน์ย้อนยุค


3. พรมและผ้าม่าน

พรมและผ้าม่านเป็นของตกแต่งที่ช่วยสร้างความอบอุ่นและช่วยแบ่งโซนการใช้งานในห้องได้อย่างลงตัว

สไตล์ญี่ปุ่น หรือ มินิมอล: เลือกพรมและผ้าม่านสีอ่อน เช่น สีเบจ, สีเทา หรือขาว

สไตล์โบฮีเมียน: เลือกพรมที่มีลวดลายและสีสันสดใส และผ้าม่านที่มีลายปักหรือพู่

สไตล์โมเดิร์น: เลือกพรมและผ้าม่านแบบเรียบๆ และมีโทนสีเดียวกับเฟอร์นิเจอร์หลัก


4. ของตกแต่งอื่นๆ

ของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น แจกัน, หมอนอิง, หรือเทียนหอม ก็สามารถช่วยเสริมให้บ้านมีเอกลักษณ์มากขึ้น

แจกัน: เลือกแจกันทรงเรขาคณิตสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือแจกันเซรามิคสำหรับบ้านสไตล์เอเชีย

หมอนอิง: เลือกหมอนอิงที่มีลายกราฟิกสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือหมอนอิงที่มีลวดลายแบบชนเผ่าสำหรับสไตล์โบฮีเมียน

เทียนหอม: กลิ่นของเทียนหอมสามารถสร้างบรรยากาศและเติมความรู้สึกที่ใช่ให้กับบ้านของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หน้า: [1] 2 3 ... 41




























































































กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า