แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 10
1
ข้อเสียของการจัดฟันเด็กด้วยเครื่องมือ EF LINE

หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาฟันสามารถทำได้ตั้งแต่ในเด็ก โดยไม่ต้องรอฟันน้ำนมหลุดหมดก่อนหรือรอจนฟันแท้ขึ้นครบ การรักษาตั้งแต่เริ่มแรกอาจจะทำให้ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า แล้วยังไม่ยุ่งยาก ลดค่าใช้จ่าย และได้ผลการรักษาที่ดีและส่งผลดีในระยะยาวด้วย โดยการจัดฟันในเด็กนั้นจริงๆแล้ว สามารถเริ่มจัดฟันได้ตั้งแต่ 3-4 ขวบโดยไม่ต้องรอให้เด็กฟันแท้ขึ้นครบแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจคิดว่าฟันน้ำนมของเด็กนั้นไม่มีความสำคัญ

เพราะคิดว่า ในอนาคตก็จะมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่อยู่ ซึ่งต้องบอกว่า นี่คือความคิดที่ผิดเพราะฟันน้ำนมของเด็กนั้นมีผลต่อการขึ้นของฟันแท้ และเมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองสังเกตเห็นว่า เด็กเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์ ซึ่งในการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองก็จะต้องศึกษารายละเอียดให้ดี และควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันโดยตรงเพื่อเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้เด็กได้ลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาในอนาคตได้

แต่ถึงแม้การจัดฟันในเด็กจะมีข้อดี แน่นอนว่าจะต้องมีข้อเสียด้วยเช่นกัน แต่วันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึงข้อเสียของการจัดฟันในเด็กด้วยเครื่องมือ EF LINE ถึงแม้จะเป็นข้อเสียแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะเด็กทุกคนสามารถปรับตัวให้เข้ากับเครื่องมือได้อย่างแน่นอน และผลการรักษาของการจัดฟัน EF LINE ในเด็กนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว เพราะจะช่วยทำให้เด็กมีรูปร่างฟันที่ดี มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง เพราะการที่เด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กจำเป็นที่จะต้องเอาใส่ใจในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟัน เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการจัดฟัน

 ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเครื่องมือการจัดฟัน EF LINE ก่อนว่า เป็นอย่างไร เผื่อพ่อแม่ผู้ปกครองบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินหรือรู้จักการจัดฟันแบบ EF LINE โดยเครื่องมือ EF LINE สามารถใช้ได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 4 -15 ปี โดยเครื่องมือชนิดนี้มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันของเด็กไม่ว่าจะเป็นปัญหารูปหน้าที่มีคางยุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้น ซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า เป็นต้น

ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อท่านพบความผิดปกติดังที่ได้กล่าวมาหรือในกรณีที่ไม่ทราบว่าบุตรหลานของท่านมีความผิดปกติใดๆแฝงอยู่หรือไม่ จึงควรพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจช่องปากและฟันและวางแผนการรักษากับทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้บุตรหลานของท่านไม่เสียโอกาสที่จะได้รับการแก้ไขปัญหาและช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าเพื่อผลการจัดฟันที่ดีขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย สำหรับข้อเสียของการจัดฟันในเด็กโดยใช้เครื่องมือ EF LINE ถือเด็กอาจจะต้องปรับตัวในการสวมใส่เครื่องมือ เพราะในช่วงแรกอาจจะทำให้รู้สึกไม่คุ้นชิน อาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดในช่วงแรก นี่คือข้อเสียที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการรับประทานอาหาร

การใช้ชีวิตประจำวันของเด็กได้ ซึ่งตัวเครื่องมือการจัดฟัน EF LINE เด็กจะต้องสวมใส่เครื่องมือตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลานอน อาจจะทำให้เกิดความไม่คุ้นชินได้ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นข้อเสียของการจัดฟันในเด็ก โดยเครื่องมือ EF LINE ซึ่งทางพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยสังเกตุและดูแลในการสวมใส่เครื่องมือของเด็กด้วย เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ทันตแพทย์วางแผนไว้

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด อยากพาบุตรหลาของท่านเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก และมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดี และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะทางคลินิกของเรา อยากให้เด็กๆทุกคนที่สุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีรอยยิ้มที่มั่นใจ และยังช่วยส่งเสริมในเรื่องของบุคลิกภาพของเด็กได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

2
หมอประจำบ้าน: ท่อน้ำดีอักเสบ (Ascending cholangitis)

ท่อน้ำดี (bile ducts) เป็นท่อที่เชื่อมต่อระหว่างตับ ถุงน้ำดี และลำไส้เล็กส่วนต้น

การอักเสบของท่อน้ำดีมักเป็นภาวะแทรกซ้อนจากภาวะอุดกั้นของก้อนนิ่ว หรือก้อนเนื้องอก โรคนี้ถือเป็นภาวะร้ายแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เป็นโลหิตเป็นพิษเสียชีวิตได้

สาเหตุ

การอักเสบของท่อน้ำดีมักมีสาเหตุมาจากการอุดกั้นของท่อน้ำดี ซึ่งส่วนมากเนื่องมาจากมีก้อนนิ่วอุดกั้น ส่วนน้อยอาจมีการอุดกั้นเนื่องจากก้อนเนื้องอกหรือมะเร็ง หรือสาเหตุอื่น ๆ ทำให้มีเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทำให้เกิดการอักเสบของท่อน้ำดี ซึ่งมักจะลุกลามขึ้นไปถึงท่อน้ำดีเล็ก ๆ ที่อยู่ในตับ ซึ่งเรียกว่า ท่อตับ (hepatic ducts)

อาการ

มีไข้สูง หนาวสั่นคล้ายมาลาเรีย ตาเหลือง ตัวเหลือง ปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือชายโครงข้างขวาอาการปวดท้องอาจมีลักษณะปวดรุนแรงเป็นพัก ๆ คล้ายนิ่วน้ำดี


ภาวะแทรกซ้อน

ฝีตับจากแบคทีเรีย

ในรายที่เป็นรุนแรงอาจมีภาวะช็อก โลหิตเป็นพิษ ปอดอักเสบ การหายใจล้มเหลว โรคหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจล้มเหลวได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและตรวจพบ ไข้ ตาเหลือง กดเจ็บตรงบริเวณชายโครงขวา และอาจตรวจพบตับโต

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด เพาะเชื้อจากเลือด อัลตราซาวนด์ เอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ให้การรักษาตามอาการและรักษาแบบประคับประคอง (เช่น ยาลดไข้ ให้น้ำเกลือ เป็นต้น) ให้ยาปฏิชีวนะ และทำการผ่าตัด


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้สูง หนาวสั่น เสียดแน่นตรงใต้ลิ้นปี่ หรือปวดตรงชายโครงขวา ควรไปพบ แพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นท่อน้ำดีอักเสบ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

โดยการขจัดปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะอุดกั้นของท่อน้ำดี เช่น เมื่อพบก้อนนิ่ว หรือก้อนเนื้องอก ควรทำการผ่าตัดออก


ข้อแนะนำ

โรคท่อน้ำดีอักเสบจัดว่าเป็นภาวะที่มีอันตรายร้ายแรง มีอัตราตายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยสูงอายุ หรือเป็นตับแข็ง ผู้ที่มีอาการไข้สูง หนาวสั่น และปวดท้องรุนแรง ซึ่งชวนสงสัยว่าเป็นโรคนี้ ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที

3
งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์ เปิดตัว Zeekr 7X เอสยูวีไฟฟ้าสุดล้ำในจีน วิ่งไกลสุด 780 กม./ชาร์จ

Zeekr 7X เอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลาง เปิดตัวแล้วที่งาน Chengdu Auto Show ในวันที่ 30 สิงหาคม พร้อมจำหน่ายแล้วในประเทศจีน เริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน และเริ่มจำหน่ายไปยังประเทศอื่น ๆ ภายในหนึ่งปีหลังจากนี้
 
Zeekr 7X ถือว่าเป็นเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นแรกของค่าย โดยมีมิติตัวถัง ดังนี้
ความยาว 4,825 มม.
ความกว้าง 1,930 มม.
ความสูง 1,666 มม.
ระยะฐานล้อ 2,925 มม.
 
ถือว่า 7X มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากในภาพรวมของรถมีมิติที่เหนือกว่า Honda CR-V ไปอีกหนึ่งเซกเมนต์ รวมถึงใหญ่กว่า XPeng G6 ที่เพิ่งตัวในบ้านเราไปอีกด้วย
 

แพลตฟอร์มจาก Geely คงภาษาการออกแบบของ Zeekr
 
รถคันนี้อยู่ภายใต้แพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) ของ Geely โดยมีน้ำหนักรถ (curb weight) อยู่ที่ 2,298 - 2,475 กก. ขึ้นกับรุ่นย่อย ซึ่งค่อนข้างหนักเลยทีเดียว
 
7X ยังคงใช้ภาษาการออกแบบ Hidden Energy design ของ Zeekr ดีไซน์ด้านหน้าประกอบด้วย หน้าจอ LCD Zeekr Stargate interactive display ซึ่งสามารถส่งข้อความและรูปภาพไปยังผู้คนนอกรถได้
 

ส่วนดีไซน์ด้านท้าย เราจะเห็นไฟท้ายแบบเส้นเดียวตลอดความกว้างรถ สำหรับสีภายนอกของรถมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว Arctic White, สีน้ำตาล Dawn Brown, สีเทา Nightfall Gray, และสีดำ Polar Night Black ส่วนล้อจะมีให้เลือกตั้งแต่ 19 และ 20 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
 

ภายในกว้างขวาง ล้ำสมัย มากประโยชน์ใช้สอย
 
สำหรับภายในของ Zeekr 7X ออกแบบไว้สำหรับครอบครัว สามารถโดยสารได้ 5 ที่นั่ง มาพร้อมที่เก็บของกว่า 32 จุด เก็บได้ตั้งแต่แว่นกันแดดยันลิปสติก ท้ายรถมีความจุสัมภาระที่ 616 ลิตรก่อนพับเบาะ ซึ่ง Zeekr ระบุว่าเพียงพอสำหรับการแคมป์ปิ้งอย่างแน่นอน
 
ดีไซน์ภายในของ Zeekr 7X จะยังประกอบด้วย 2 จอเหมือนรุ่นอื่น ๆ ได้แก่ หน้าจอกลางขนาดใหญ่แบบ Floating Screen และมาตรวัดดิจิทัล LCD ด้านหลังพวงมาลัยที่ติดตั้งเข้าไปในแดชบอร์ด โดยระบบ infotainment ของรถทำงานผ่านชิป Qualcomm Snapdragon 8295

 
7X มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้านตัดบนตัดท้าย บนพวงมาลัยมีทั้งปุ่มเลื่อนและปุ่มกด การเปลี่ยนเกียร์ย้ายจากคอนโซลกลางมาที่หลังพวงมาลัยแล้ว
 
สำหรับที่นั่งแถวหลังมีความกว้างขวาง มีถาดวางของจากเบาะแถวหน้าที่คล้ายกับบนเครื่องบิน ในรุ่นท็อปจะมาพร้อมจอระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบอุ่น/ระบายอากาศ ของเบาะที่สามารถควบคุมผ่านจอสัมผัสที่พนักวางแขนด้านหลังได้เลย พร้อมทั้งมีหลังคาพานอรามิคซันรูฟที่มีระบบม่านไฟฟ้ามาให้ด้วย
 
 
ขุมพลังแรงเหลือเฟือ โครงสร้างไฟฟ้า 800V ทำ 0-100 ภายใน 3.8 วิ
 
ขุมพลังของ Zeekr 7X มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยว และมอเตอร์คู่ ประกอบด้วยมอเตอร์ซิลิกอนคาร์ไบด์ขนาด 415 แรงม้า (310 kW) ที่ล้อหลัง และมีมอเตอร์ขนาด 221 แรงม้า (165 kW) ที่ด้านหน้าพิ่มขึ้นมาในรุ่นมอเตอร์คู่ ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที
 
7X ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมโครงสร้างไฟฟ้าสถาปัตยกรรม 800V โดยมีความจุแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่
แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต ความจุ 75 kWh แบบ Golden Brick พัฒนาโดย Zeekr เอง ผลิตโดย VREMT บริษัทย่อยของ Geely มี สามารถชาร์จแบตฯ จาก 10-80% ได้ภายใน 10.5 นาที โดยซีคเกอร์เคลมว่าเป็นสถิติที่เร็วที่สุดในโลก และรองรับการชาร์จ 5.5C charging ให้ระยะทางขับขี่ 605 กม./ชาร์จ (CLTC)   
แบตเตอรี่ NMC ความจุ 100 kWh จะใช้แบตเตอรี่ Qilin จาก CATL รองรับชาร์จเร็ว 5C charging ให้ระยะทางขับขี่ 780 กม./ชาร์จ (CLTC)
 
โดยแบตเตอรี่ทั้งสองแบบนี้เคยนำเสนอเป็นตัวเลือกสำหรับ Zeekr 007 โมเดลปี 2025 ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้
 
ระบบความปลอดภัย Zeekr 7X
 
สำหรับระบบความปลอดภัยของ Zeekr 7X มาพร้อมเซนเซอร์รอบคัน ประกอบด้วย LiDAR ประมวลผลด้วยชิป Nvidia Orin X 2 ตัว ที่ให้พลังการประมวลผลที่ 508 TOPS คาดว่ามาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ Haohan intelligent driving 2.0 ซึ่งใช้ใน Zeekr 001 และ 007 อีกด้วย
 
Zeekr 7X พร้อมส่งมอบภายในเดือนหน้าสำหรับตลาดประเทศจีน ส่วนประเทศอื่น ๆ ต้องรอกันไปก่อน แต่ไม่น่าเกินหนึ่งปีหลังจากนี้แน่นอน

4
โพสขายออนไลน์ฟรี / อาการcovid 19 เริ่มต้น
« เมื่อ: วันที่ 18 พฤศจิกายน 2024, 18:59:11 น. »
อาการcovid 19 เริ่มต้น

อาการโควิดเริ่มต้น

โดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 จะแสดงอาการป่วยใน 5–6 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยอาจแสดงอาการโควิดหลังจากติดเชื้อ 14 วันก็เป็นได้ มี 5 อาการหลัก ๆ ที่สังเกตด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ว่าเป็นอาการโควิดวันแรก ซึ่งก็คือ มีไข้ เจ็บคอ ไอแห้ง ๆ น้ำมูลไหล หายใจเหนื่อยหอบ ซึ่งเป็นอาการคล้ายกับไข้หวัด  และบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่นปอดอักเสบ แต่อาการที่พบได้ช้ดเจนกว่าอื่น ๆ คือ “ไม่ได้กลิ่น - ไม่รู้รส”

อาการแบบไหนคือโควิดลงปอด

อาการปอดที่ทำงานได้น้อยลง บวกกับการติดเชื้อโควิด ยิ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของปอดโดยตรง ทำให้ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนก๊าซที่น้อยลง เป็นผลให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลงตามลำดับ กลุ่มที่เสี่ยงมากคือ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้มีน้ำหนักเกิน ผู้สูงอายุติดโควิด  อาการโควิดลงปอดที่แสดงออกมามีดังต่อไปนี้

     อาการหอบเหนื่อย แม้จะทำกิจกรรมที่ไม่ได้ออกแรงมากก็ตาม
    หายใจลำบาก หายใจไม่สุด หรือหายใจได้ไม่เต็มปอด
    รู้สึกเจ็บ แน่นหน้าอก
    อาการไอ ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ
    มีอาการไข้มากกว่า 37.5 °C ขึ้นไป

สามารถที่จะเช็กอาการโควิดลงปอดเบื้องต้นด้วยตนเอง ด้วยการใช้อุปกรณ์วัดค่าออกซิเจนในเลือดบริเวณปลายนิ้ว (Fingertip Pulse Oximeter) ที่มีค่าไม่ต่ำกว่า 94% และมีอาการเหนื่อยหอบร่วมด้วยเมื่อใดที่สงสัยว่ามีอาการโควิดลงปอด ให้พบแพทย์เพื่อทำการยืนยันผลตรวจโดยการทำเอกซเรย์ปอด (Chest X-ray) เพื่อเริ่มขั้นต้นการรักษา ซึ่งแน่นอนย่อมเป็นการให้ยาโควิดตามลักษณะอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก เพื่อยับยั้งความรุนแรงและการกระจายตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปยังอวัยวะอื่น ๆ ต่อไปในขณะเดียวกันผู้ป่วยก็สามารถดูแลอาการโควิดลงปอดเบื้องต้นด้วยตัวเองก่อนเข้ารับการรักษาจากแพทย์โดยตรงก่อนได้ ดังนี้

     ปรับท่านอนช่วยเพิ่มออกซิเจนในปอดในท่านอนคว่ำ นอนตะแคง และท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เป็นเวลาประมาณ 30 นาที – 2 ชั่วโมง
    ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวขาบ่อย ๆ เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
    ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ประมาณ 2 – 2.5 ลิตรต่อวัน และกินอาหารที่เป็นประโยชน์เพียงพอ
    สำหรับผู้ที่มียาประจำตัวให้กินอย่างสม่ำเสมอ กรณีมีโรคความดันเลือดสูงควรวัดความดันต่อเนื่อง
    เตรียมยาเพื่อรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาโควิด

อาการโควิดต่างจากไข้หวัดใหญ่อย่างไร

อาการโควิด-19 นั้น ถ้านับจากวันที่ 1–5 ปกติจะมีอาการที่แสดงออกคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รู้สึกเพลีย ๆ อาจจะมีเจ็บคอ หรือมีน้ำมูกบ้าง แต่หลังจากวันที่ 5 แล้ว ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการที่ผิดปกติมากกว่าไข้หวัดใหญ่ คือ จะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นผิดปกติ หรือหอบมากขึ้น บางรายจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และปอดอักเสบ เป็นต้น

วิธีรักษาอาการโควิด

ผู้ป่วยโควิด-19 มีการติดเชื้อที่พบได้อยู่ 3 รูปแบบ ที่มีอาการโควิดตั้งแต่ระดับเบาจนถึงระดับรุนแรง ดังนั้นวิธีรักษาโควิดก็จะแตกต่างกันไป

 1. การรักษาผู้ป่วยสีเขียว

เนื่องจากอาการไม่รุนแรงจึงไม่จำเป็นต้องรักษาที่โรงพยาบาล เพียงแค่ทำการกักตัว 14 วัน หรือที่เรียกว่า Home Isolation โดยได้รับการดูแลพร้อมอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน เช่น ยาโควิด ฟ้าทะลายโจร หรือเข้ารักษาตัวโดยได้รับการดูแลจากแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง

 2. การรักษาผู้ป่วยสีเหลือง

เนื่องจากมีอาการรุนแรงกว่าผู้ป่วยสีเขียว เช่น ผื่นแดงโควิด ปวดเมื่อยตามตัว เหนื่อยหอบง่าย ไอหนักขึ้น หายใจแล้วแน่นหน้าอก ให้รีบรักษาตัวที่โรงพยาบาล

 3. การรักษาผู้ป่วยสีแดง

การรักษาผู้ป่วยสีแดงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิดที่ห้อง ICU โดยผู้ป่วยจะได้รับเครื่องช่วยหายใจ ระหว่างรอเตียงควรนอนคว่ำ หากหายใจไม่ออกให้นอนตะแคงประมาณ 45 องศา หากเป็นสตรีตั้งครรภ์ให้นอนตะแคงซ้ายเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี พยายามขยับขาป้องกันลิ่มเลือด และดื่มน้ำเยอะ ๆ  กินอาหารที่มีประโยชน์ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
อาการโควิดกี่วันหาย

เชื้อโควิดกี่วันหายนั้น ขึ้นกับอาการของแต่ละคน โดยจะดูที่อาการของผู้ป่วยเป็นหลัก หลังครบกำหนดที่โรงพยาบาลหรือกระทรวงสาธารณะสุขกักตัวผู้ป่วยเป็นระยะเวลา 10 วัน เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าไม่มีอาการโควิดที่เข้าข่ายระยะแพร่เชื้อ จะถือว่าผู้ป่วยนั้นสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

แนวทางป้องกันโควิด

วิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการโควิด ไม่ให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 คือ

     หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูลไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
    หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
    สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ หรืออยู่ร่วมกับผู้อื่น
    เว้นระยะห่างทางสังคม
    ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง แต่เมื่อจับแล้วก็อย่าเอามือสัมผัสหน้า และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น กระเป๋า มือถือ เป็นต้น
    ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ)
    งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
    หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน
    กินอาหารสุก สะอาด ใช้ช้อนกลาง ไม่กินอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
    เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังออกไปข้างนอก
    สังเกตอาการป่วยของตัวเอง และทุกคนในบ้านอย่างสม่ำเสมอ

การป้องกันไม่ให้เด็กติดโควิด ผู้สูงอายุติดโควิด หรือติดโควิดรอบ 2 นั้น ทุก ๆ คนต้องรู้จักการดูแลตัวเองหลังติดโควิด (ถ้าเคยเป็น) ตามแนวทางป้องกันที่ระบุไว้ข้างต้น ถึงแม้ว่าจะเป็นโควิดรอบใหม่ที่แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิม ก็ยังคงเป็นแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพเช่นเดิม

ข้อสรุป

อาการโควิดรอบใหม่นี้ เป็นการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งแพร่กระจายสู่คนในสังคมได้อย่างรวดเร็ว โอกาสติดโควิดรอบ 2 ก็สูงขึ้น ข้อแนะนำก็คือ ให้ถือปฏิบัติในแนวทางป้องกันไม่ต่างจากการป้องกันโควิดสายพันธุ์ก่อน ๆ มากนัก เพื่อไม่ให้เกิดการติดอาการโควิดรอบใหม่



5
ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์: “ดอกเบี้ย MLR MRR MOR” คืออะไร จะกู้บ้านหลังแรกต้องรู้!

คนที่วางแผนจะซื้อบ้านซื้อคอนโด หลังจากหาโครงการที่ถูกใจได้แล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของการขอสินเชื่อแล้วล่ะค่ะ การขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารก็มีเรื่องเอกสารต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องไม่น้อย แต่อีกเรื่องที่ลืมไม่ได้และต้องเช็กให้ละเอียดเลยก็คือ "ดอกเบี้ย" ค่ะ แน่นอนการขอสินเชื่อบ้านเราจะพิจารณาจากดอกเบี้ยและวงเงินปล่อยกู้ของธนาคารเป็นหลัก ตัวดอกเบี้ยเองก็มีประเภทแยกย่อยออกไปอีก แล้วเวลาจะเลือกดอกเบี้ยที่ถูกและใช่ที่สุดต้องดูยังไง วันนี้ไปทำความเข้าใจกันแบบเต็มๆ ดีกว่าค่ะ ใครกำลังวางแผนขอสินเชื่อ ห้ามพลาดนะคะ...

ปกติแล้ว ดอกเบี้ยเงินกู้จะมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ
 
1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะ คงที่ตลอดอายุสัญญาหรือในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น กำหนดให้ชำระดอกเบี้ย 5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 4 ปี เป็นต้น
2. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating rate) อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Reference Rate) ที่เปลี่ยนแปลงไปตามต้นทุนของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งในช่วงเวลาต่างๆ โดยแต่ละธนาคารก็จะประกาศอัตราใหม่กันเป็นครั้งคราว ตัวอย่างที่เราจะได้ยินกันบ่อยๆ ก็คือ MLR, MOR, MRR ซึ่งแบงก์ชาติได้ให้ความหมายไว้เป็นแนวทางคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
 
MLR (Minimum Loan Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Term Loan) เช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ โดยส่วนใหญ่ใช้กับเงินกู้ระยะยาวที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เช่น สินเชื่อบ้านทั่วไป, สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ เป็นต้น
MOR (Minimum Overdraft Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี
MRR (Minimum Retail Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบัตรเครดิต เป็นต้น
 

? เรื่อง (ไม่) ลับ ของดอกเบี้ย MLR, MOR, MRR
 
1. กฎของแบงก์ชาติระบุว่า แต่ละธนาคารจะต้องติดอัตราดอกเบี้ยประกาศให้ชัดเจนที่สำนักงานใหญ่ และสาขาของแต่ละธนาคาร รวมถึงในเว็บไซต์ของแต่ละธนาคารนั้นๆ

2. อัตราดอกเบี้ยเหล่านี้ของแต่ละธนาคารจะไม่เท่ากัน เนื่องจากต้นทุนของแต่ละธนาคารไม่เท่ากัน ต้นทุนที่เกี่ยวข้องของแต่ละธนาคาร เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก, จำนวนเงินฝาก, ฐานะเงินกองทุน, ปริมาณเงินสำรอง, จำนวนหนี้เสีย และสภาพคล่องของธนาคารนั้นๆ

3. ลูกค้าสองคนเดินเข้าไปหาธนาคารเดียวกันเพื่อขอกู้สินเชื่อเหมือนกัน แต่อาจจะได้อัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ นั่นเป็นเพราะธนาคารมองความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละคนไม่เท่ากัน

4. คำว่า MLR แม้ธนาคารส่วนใหญ่จะให้ความหมายว่าสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ซึ่งฟังดูเหมือนลูกค้ารายใหญ่ ที่มีประวัติทางการเงินที่ดี แต่จริงๆ แล้ว ธนาคารส่วนใหญ่ก็เสนออัตรา MLR นี้ให้กับลูกค้าได้แทบจะทุกประเภทไม่จำกัดเฉพาะรายใหญ่

5. โดยทั่วๆ ไป MRR จะสูงที่สุดเสมอตามมาด้วย MOR และสุดท้ายคือ MLR จะต่ำที่สุด เช็กอัตราดอกเบี้ย MRR, MOR และ MRR ล่าสุด
ใครที่กำลังวางแผนซื้อบ้านซักหลัง อย่าลืมนะคะ! สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรกๆ ก็คือเรื่องสินเชื่อบ้านค่ะ ยิ่งเลือกสินเชื่อบ้านที่มีดอกเบี้ยถูก ก็ช่วยลดภาระการผ่อนของเราได้มากเลยนะคะ...

6
ลงประกาศฟรีทุกหมวดหมู่ รองรับ SeO youtube / มาเปิดไฟให้ผิวกัน
« เมื่อ: วันที่ 16 พฤศจิกายน 2024, 19:45:16 น. »
ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยแผล และเสริมการทำงานของโลชั่นให้ขาวเร็วขึ้น ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว: สัมผัสความเปลี่ยนแปลงใน 7 วัน
#พีพีริช #พีพีริชแบรนด์ #เซรั่มเปิดผิว #เซรั่มพีพีริช #โลชั่นปรับสีผิวพีพีริช #โลชั่นผิวขาวพีพีริช  #เปิดไฟให้ผิว

มาเปิดไฟให้ผิวกัน ดูเพิ่มเติมที่นี่ https://www.facebook.com/profile.php?id=61566449670178

7
บริหารจัดการอาคาร: วิธีใช้แอร์ที่มักถูกเข้าใจผิด ทำค่าไฟพุ่งกระฉูด

อากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทย เป็นรอะไรที่แบบทรมานมาก สำหรับใครหลายคนที่ไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ หรือบ้านที่ไม่มแอร์คอยช่วยทำให้อากาศเย็น ยิ่งเปิดแอร์บ่อยเท่าไหร่ แอร์ยิ่งทำงานหนัก ทำให้หลายคนต้องเจอค่าไฟฟ้าที่พุ่งกระฉูด แต่จะให้ปิดแอร์ก็ไม่ไหว อยู่ไม่ได้อีก แต่ก็ยังมีวิธีที่จะทำให้ประหยัดค่าไฟได้เพิ่มขึ้น แม้ต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งเคล็ดลับดังกล่าวทางเราเคยแนะนำไปเมื่อครั้งที่แล้ว


นอกจากนี้ เราจะมีเคล็ดลับการประหยัดค่าไฟแล้ว หากเราลองทำตามขั้นตอนหรือวิธีที่เราแนะนำไปแล้วค่าไฟยังสูงอยู่ คุณอาจจะใช้งานแอร์ที่ผิดวิธี เชื่อว่า หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้งานแอร์อยู่ ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟพุ่งโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้น วันนี้ทาเราจะมาพูดถึงวิธีการใช้แอร์ที่มักจะถูกเข้าใจผิด ซึ่งทำให้อายุการใช้งานของแอร์ลดลง แถมทำให้แอร์ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น และยังส่งผลให้ค่าไฟพุ่งกระฉุดอีกด้วย เพื่อเป็นแนวทางให้กับหลายคนที่อาจจะเข้าใจผิด ได้กลับมาใช้งานแอร์ได้อย่างถูกวิธี เพื่อประหยัดค่าไฟให้ถูกลง และยืดอายุการใช้งานของแอร์ของคุณอีกด้วย

อย่างแรกเลยก็คือ การใช้เครื่องเก่าไม่ยอมเปลี่ยน เชื่อหลายๆบ้าน ยังใช้แอร์เก่า ๆ ไม่ยอมเปลี่ยน เพราะเห็นว่ายังใช้ได้อยู่ ซึ่งจริง ๆ แล้วแม้ตัวเครื่องภายนอกจะยังดูดี แต่ระบบภายในก็เสื่อมไปตามระยะเวลาในการใช้งาน โดยเฉพาะแอร์เก่า ๆ ที่ใช้งานมานานเกิน 15 ปี ซึ่งนอกจากจะต้องเสียค่าซ่อมบำรุงแพงแล้ว ยิ่งใช้ยิ่งกินไฟอีกต่างหาก ดังนั้น แทนที่จะช่วยประหยัดอาจต้องจ่ายมากกว่าการซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งเครื่องปรับอากาศในตอนนี้ก็มีทั้งการพัฒนาระบบที่ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าแถมยังมีฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากขึ้นด้วย หากเรายังฝืนดันทุรังใช้งานแอร์เก่าๆ แน่นอนว่า ค่าใช้จ่ายบานปลายแน่ๆ ข้อต่อมาคือ หลายคนคิดว่า  ยิ่งค่า BTU สูงยิ่งดี ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมากๆ

นอกจากนี้ บางคนอาจจะยังเข้าใจผิดคิดว่ายิ่งค่า BTU เยอะยิ่งทำให้บ้านเย็น ซึ่งจริง ๆ แล้วหากเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่า BTU สูงเกินความจำเป็นก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย แต่ถ้าเครื่องปรับอากาศมีค่า BTU ต่ำเกินไปก็จะทำเครื่องทำงานหนักและกินไฟมาก เพราะฉะนั้น ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่า BTU เหมาะสมกับขนาดของห้อง โดยคำนวนจากสูตรพื้นที่ห้อง (กว้างxยาว) x ค่า Cooling Load Estimation = ค่า BTU ที่เหมาะสม ซึ่งการประเมินค่า Cooling Load Estimation ที่เหมาะสมกับแต่ละห้อง ตัวอย่างเช่น ห้องนอน 700-750 BTU/ตารางเมตร, ห้องนั่งเล่น 750-850 BTU/ตารางเมตร, ห้องรับประทานอาหาร 800-950 BTU/ตารางเมตร, ห้องครัว 900-1000 BTU/ตารางเมตร, ห้องทำงาน 800-900 BTU/ตารางเมตร และห้องประชุม 850-1000 BTU/ตารางเมตร โดยสูตรคำนวณนี้ ค่า BTU เหมาะสำหรับห้องที่มีเพดานไม่เกิน 3 เมตร หากเป็นห้องที่มีความสูงมากกว่าและมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ตำแหน่งของห้อง ทิศทางของแดด เครื่องใช้ไฟฟ้า และจำนวนผู้อาศัย จะต้องบวกค่า BTU เพิ่มขึ้นด้วย ต่อมาในเรื่องของตำแหน่งการติดตั้งแอร์ก็มีความสำคัญ


เพราะหากติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็ช่วยให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักและประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่ง โดยพื้นที่ที่ติดตั้งแอร์ควรเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีสิ่งของบังทางลม พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นมุมอับ การติดตั้งแอร์บนผนังบ้านที่รับแสงแดดจัดหรือทิศตะวันตกเพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนัก รวมถึงไม่ติดตั้งแอร์บริเวณใกล้กับประตูหรือหน้าต่าง เนื่องจากจะทำให้ความร้อนภายนอกไหลเข้ามาแทนที่อากาศภายในได้ง่าย นอกจากนี้ สิ่งที่หลายคนยังเข้าใจผิดก็คือ การเปิดแอร์พร้อมพัดลมทำให้เปลืองไฟ ซึ่งจริง ๆ แล้วเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟควรเปิดพัดลมควบคู่กับการเปิดแอร์ไปด้วย จะทำให้ห้องเย็นขึ้นและช่วยประหยัดไฟได้ และอีกข้อหนึ่งก็คือ


หลายคนเชื่อว่า เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น หลายคนคงเคยปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิต่ำเพราะอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ เพราะไม่ว่าตั้งให้อุณหภูมิต่ำสักแค่ไหน ก็ใช้เวลาในการทำความเย็นพอ ๆ กันกับการตั้งอุณหภูมิปกติอยู่ดี ทางที่ดีถ้าหากอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ให้เร่งความเร็วพัดลมแอร์จะช่วยได้ดีกว่านั่นเอง หากทราบแล้วว่า พฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟ ก็ควรรีบปรับปรุงการใช้แอร์ด่วน เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าไฟและยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้นานยิ่งขึ้น


อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากที่จะตรวจสอบหรือเช็คระบบแอร์ สามารถขอรายละเอียดได้จากทางเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศภายในอาคาร ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะนั่นหมายถึงอากาศที่ดีที่เราสูดดมเข้าไป ถ้าหากเรามีระบบเครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาดแล้ว อาจจะทำให้เราเสียสุขภาพไปด้วย เพราะฉะนั้น ให้ทางเราได้ดูแลในเรื่องของระบบปรับอากาศของคุณให้มีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

8
ขายรถไมล์น้อย Mitsubishi XPander Cross ปี2023 ราคาพิเศษ ประหยัดน้ำมัน

มิตซูบิชิ Mitsubishi Xpander Cross ปี 2023
Mitsubishi Xpander Cross รถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ใหม่สไตล์โฉบเฉี่ยว สะท้อนความหรูหราผสานดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ และผู้ขับขี่ที่รักการผจญภัยและออกทริปเอาท์ดอร์ ด้วยฟังก์ชั่นระบบการขับขี่สุดล้ำสมัยที่เหนือกว่ารถในรุ่นเดียวกัน อย่างเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ “เอวายซี” (Active Yaw Control: AYC) ให้ความปลอดภัย เสถียรภาพการทรงตัว และความสะดวกสบายสูงสุด ในหลากหลายสภาพถนนและสภาพอากาศที่แตกต่าง มากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT ตอบสนองการทำงานกับเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2567
ฟรี ประกันหลังการขาย เครื่อง เกียร์ (ส่งซ่อมห้าง) 1 ปี / 10,000 กม.
ฟรี บริการเซ็นเอกสารจัดไฟแนนซ์ถึงบ้านทั่วไทย

ราคาพิเศษ 628,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                 Mitsubishi
   รุ่น                          มิตซูบิชิ Mitsubishi Xpander Cross ปี 2023
   ประเภทรถ         รถอเนกประสงค์ MPV
   ปีที่เปิดตัว          2023


9
โพสขายออนไลน์ฟรี / การจัดฟันเด็ก มีกี่แบบ
« เมื่อ: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2024, 18:42:22 น. »
การจัดฟันเด็ก มีกี่แบบ

การจัดฟันในเด็ก เป็นการรักษาทางทันตกรรมอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยแก้ไขปัญหารูปร่างฟันและลักษณะของฟันที่ขึ้นผิดปกติ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่มักจะพบได้บ่อยในเด็ก เนื่องจากเด็กๆหลายคนชื่นชอบการรับประทานของหวาน เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดฟันผุ ถ้าหากเด็กดูแลรักษาความสะอาดหรือแปรงฟันไม่สะอาด ดังนั้น หากปล่อยไว้นานๆ และยังมีพฤติกรรมการรับประทานสิ่งเหล่านี้ ก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดการสูญเสียฟันได้ในที่สุด เมื่อเกิดการสูญเสียฟันแล้ว แน่นอนว่า ต้องมีปัญหาฟันอื่นๆตามมาอีกแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเกิดฟันห่าง เพราะมีช่องว่างระหว่างฟัน หรือฟันล้ม ซึ่งปัญหานี้ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กได้อีกด้วย เพราะอาจจะทำให้การรับประทานเป็นอุปสรรค เพราะเนื่องจากมีฟันที่ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ หรือแม้กระทั่งการทำความสะอาดช่องปากและฟันที่อาจจะส่งผลทำให้ทำความสะอาดฟันได้ไม่ทั่วถึง

เพราะฉะนั้น เด็กที่มีปัญหาเหล่านี้ควรที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้ และทำให้เด็กกลับมามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ช่วยทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำได้ด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็กนั้น ก็มีด้วยกัน 2 แบบ นั่นก็คือ การจัดฟันในเด็กที่สวมใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 12-15 ปี ที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว และอีกแบบหนึ่งเป็นการจัดฟันในเด็กด้วยเครื่องมือการจัดฟันที่เรียกว่า EF Line ซึ่งสามารถรักษาปัญหาฟันได้ในเด็กที่มีอายุ 4-15 ปี เลยทีเดียว สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ทั้ง 2 รูปแบบ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่กำลังสนใจในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก

 สำหรับการจัดฟันในเด็กแบบแรกที่เราจะมาพูดถึงนั่นก็คือการจัดฟันในเด็ก EF Line ซึ่งเป็นการจัดฟันที่มีเครื่องมือการจัดฟันเป็นชิ้นยางที่มีหลากหลายสี ให้เด็กสามารถเลือกสีที่ชอบได้ โดยเหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 4-15 ปี เป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่  โดยอาศัยแรงที่ได้จากกล้ามเนื้อให้เกิดการปรับโครงสร้างกระดูกของใบหน้าให้มีการเรียงตัวของฟันที่สวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการจัดฟัน EF LINE ทำให้เด็กๆสามารถสนุกและเพลิดเพลินไปกับการใช้เครื่องมือการจัดฟันได้และการจัดฟัน EF LINE สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของการดูดนิ้วของเด็ก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มักเกิดขึ้นในเด็ก ที่ส่งผลทำให้เกิดฟันห่าง ฟันยื่นและฟันเรียงตัวไม่สวยงาม เหมาะสำหรับเด็กที่มีอาการนอนกรน นอนกัดฟันและมีอาการปวดขากรรไกร

ซึ่งการจัดฟัน EF LINE นั้นจะช่วยเรียงตัวของฟันให้สวยงาม แก้ไขปัญหาฟันห่าง ช่วยแก้ไขในเรื่องของการนอนกัดฟัน นอนกรนในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังส่งผลทำให้เด็กมีพัฒนาการในการเจริญเติบโตได้ดีอีกด้วย สำหรับการสวมใส่เครื่องมือในช่วงเวลากลางคืนหรือขณะนอนหลับควรให้เด็ใส่เครื่องมือเป็นเวลา 10 ชั่วโมงและในเวลากลางวันให้ใส่ 2 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างการสวมใส่เครื่องมือจัดฟัน EF LINE ไม่ควรเคี้ยวเล่นหรือพูดคุยขณะใส่เครื่องมือ และควรดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปากของเด็กด้วย สำหรับเครื่องมือการจัดฟัน EF LINE นั้นสามารถใช้แก้ปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานที่ผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้นรวมถึงการจัดฟันให้เรียงตัวอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นได้

 ต่อมาการจัดฟันในเด็ก แบบสวมใส่เครื่องมือแบบติดแน่น เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 12 -15 ปีที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว เหมาะสำหรับเด็กที่มีการสบฟันที่ผิดปกติ เช่นฟันซ้อนหรือฟันขึ้นผิดตำแหน่ง เด็กที่มีฟันสบลึกหรือฟันสบคร่อม เด็กที่มีปัญหาเหล่านี้เหมาะที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่สวยงาม นอกเหนือจากเรื่องของความสวยงามแล้ว ยังทำให้เด็กยิ้มได้อย่างมั่นใจเพราะการจัดฟันในเด็กยังสามารถช่วยทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถทำความสะอาดฟันหรือแปรงฟันได้ง่ายขึ้น ช่วยรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งแน่นอนว่าการจัดฟันในเด็กนั้นทำให้มีผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดฟันตอนโตและยังมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อยกว่าการจัดฟันแบบผู้ใหญ่ด้วย หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด อยากให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สาสมารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ทีคลินิกเพราะทางเราอยากให้เด็กทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ได้รับการรักษาที่มีความปลอดภัย โดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เด็กจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น มีรอยยิ้มที่น่ารักสมวัยมากยิ่งขึ้น

10
ทำบุญไหว้พระลำพูน แนะนำ 20 วัด ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเสริมสิริมงคล

ลำพูน จังหวัดขนาดกะทัดรัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ดังคำขวัญที่ว่า พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวี ศรีหริภุญชัย … อีกทั้งยังเคยเป็นที่ตั้งของนครหริภุญชัย ในสมัยพระนางจามเทวี ทำให้หากได้ไปเที่ยวลำพูน หลายคนมักไปสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย หรือสักการะกู่ช้างกู่ม้า แต่จริง ๆ แล้วดินแดนถิ่นล้านนาแก่าแก่แห่งนี้ ยังมีวัดวาอาราม ทั้งงดงามและมีสิ่งศักดิ์ให้ได้ไปกราบไหว้อยู่อีกมากมาย วันนี้เราเลยรวมสถานที่ไหว้พระลำพูน ในอำเภอต่าง ๆ มาแนะนำกัน ไปดูสิว่ามีที่ไหนบ้าง

1. วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร
          สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำพูนมายาวนานหลายร้อยปี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 สมัยพระเจ้าอาทิตยราช ราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนครลำพูน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีถนนล้อมรอบ 4 ด้าน ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ​ ลำพูน หริภุญไชย และถนนคนเดินลำพูน เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ในอดีตนิยมเรียกว่า วัดเจดีย์หลวง มีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระธาตุหริภุญไชย เจดีย์ทรงล้านนา หุ้มแผ่นทองจังโกทั้งองค์ สูงประมาณ 92 ศอก มีฐานเป็นบัวลูกแก้วย่อเก็จ แล้วจึงเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ซึ่งรองรับองค์ระฆังกลมสีทอง มีความเชื่อกันว่าเป็นพระธาตุประจำปีระกา หากผู้ที่เกิดปีนี้ได้มากราบไหว้ขอพรก็จะเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต และในวันเพ็ญเดือน 6 จะมีงานนมัสการและสรงน้ำพระบรมธาตุทุกปี

การกราบบูชาพระธาตุหริภุญชัย

     นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

     สุวัณณะเจติยัง หริภุญชะยัฏฐัง วะระโมลีธารัง อุรัฏฐิเสฏฐัง สะหะอังคุลิฏฐิง

     กัจจายะเนนานีตะ ปัตตะปูรัง สีเสนะ มัยหัง ปะระมามิ ธาตุง อะหัง วันทามิ สัพพะทาฯ

          ข้าพเจ้าขอน้อมเศียรเกล้าของข้าพเจ้านอบน้อมพระธาตุอันเป็นพระเจดีย์ทอง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหริภุญชัย คือ พระอัฐิเบื้องพระธารพระโมลีอันประเสริฐ พระอัฐิเบื้องพระทรวงอันประเสริฐสุด กับทั้งพระอัฐิพระองคุลี และพระธาตุย่อยเต็มบาตรหนึ่งอันพระกัจจายนะนำมา ข้าพเจ้าขอวันทาในกาลทุกเมื่อแล
          ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่งทุกชาติไป ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยผลบุญแห่งการบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยความเลื่อมใส พึงเป็นปัจจัยแด่พระนิพพาน ขออุทิศกุศลผลบุญให้แด่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ผู้ประพฤติธรรมอันสมควรค่าแก่ธรรม ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบ ในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านดังกล่าวนามมานั้น จงมีแต่ความสุขเทอญ

    ที่ตั้ง : ถนนรอบเมืองใน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
    เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน
    Google Map : วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร

     2. วัดมหาวันวนาราม พระอารามหลวง (พระรอด)
          วัดเก่าแก่ของลำพูนที่มีอายุยาวนานถึง 1,300 ปี ตั้งอยู่ที่ถนนจามเทวี ห่างจากอนุสาวรีย์พระนางจามเทวีประมาณ 1 กิโลเมตร มีชื่อเต็มคือ วัดมหาวันวนาราม เป็นอีกหนึ่งในอดีตเป็นอารามหลวงในสมัยพระนางจามเทวี และเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์วัดมหาวัน ซึ่งบรรจุพระรอดลำพูน 1 ใน 5 พระเครื่องชุดเบญจภาคีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เชื่อกันว่าพระรอดองค์นี้มีความสักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีและคุ้มครองผู้ที่ไปกราบไหว้บูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายและความวิบัติต่าง ๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม รวมถึงให้โชคลาภอีกด้วย สมัยก่อนที่นี่เป็นที่ปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนและเหล่าทหารที่ต้องสู้รบในยามศึก ในปัจจุบันก็ยังเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านทั่วไป

คำกล่าวบูชาพระรอด

     อิมัง พุทธะสักขีปะฏิมัง อะภิชะยามะ

     อะยัง พุทธะปะฏิมายะ ปูชะนัสสะ

     อานิสังโส อัมหากัง ทีฆะรัตตัง

     หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ

     ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอบูชาอย่างยิ่ง ซึ่งพระพุทธสักขีปะฏิมา (พระรอด) นี้
     ขออานิสงส์แห่งการบูชาซึ่้งพระพุทธสักขีปะฏิมานี้ จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานฯ

    ที่ตั้ง : ถนนจามเทวี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
    เฟซบุ๊ก : วัดมหาวัน จ.ลำพูน พระรอดหลวง
    Google Map : วัดมหาวันวนาราม

3. วัดสันป่ายางหลวง
           วัดสวยที่ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง ไม่ไกลจากตลาดเทศบาลเมืองลำพูนและสำนักงานเทศบาลเมืองลำพูน เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1074 ประดิษฐานพระอัฐิธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พระสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยอายุที่ยาวนานกว่าพันปี ทำให้วัดแห่งนี้ต้องผ่านพ้นหลายยุคหลายสมัย สถาปัตยกรรมของที่นี่จึงได้รับอิทธิพลมาจากหลากหลายวัฒนธรรม มีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างสวยสดงดงาม และที่โดดเด่นที่สุดคือ ศิลปะแบบหริภุญชัยแท้ ๆ อย่าง พระวิหารพระโขงเขียว หรือพระวิหารพุทธรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย (พระหยกเขียวจากแม่น้ำโขง) มีการแกะสลักลายปูนปั้นไว้ในพระวิหารอย่างสวยงาม แม้กระทั่งมุมหน้าจั่ว เชิงเพดานหลังคาด้านต่าง ๆ รวมไปถึงเสาพระวิหารก็จะแกะสลัก ลงรักปิดทองไว้ และใช้วัสดุเสาไม้ตะเคียนทอง ไม้แดง จากประเทศลาว เมียนมา และไทยในการสร้าง นอกจากนี้ในอดียยังใช้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระนางจามเทวีด้วย จึงถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดลำพูนที่ควรไปสักการะสักครั้ง

คำกราบไหว้บูชาเจ้าแม่จามเทวี

     ยา เทวี จะมะเทวีนามิกา อะภิรูปา อะโหสิ ทัสสะนียา ปาสาทิกา

     พุทธสาสะเน จะ อะภิปะสันนา สา อตีเต เมตตายะ เจวะ ธัมเมนะ

     จะ หะริภุญชะยะธานิยา รัชชัง กาเรสิ, อะหัง หะริภุญชะยานะคะระ

     วาสีนังปิ มะหันตัง หิตะ สุขัง อุปาเทสิ, อะหัง ปะสันเนนะ

     เจตะสา ตัง วันทามิ สิระสา สัพพะทาฯ

สถานที่ไหว้พระลำพูน

    ที่ตั้ง : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
    เฟซบุ๊ก : วัดสันป่ายางหลวง ลำพูน
    Google Map : วัดสันป่ายางหลวง

4. วัดจามเทวี
           วัดเก่าแก่ที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยล้านนา ตั้งอยู่ห่างจากวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ประมาณ 2 กิโลเมตร และห่างจากวัดมหาวันวนารามเพียง 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 มีเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง 5 ชั้น ฐานกว้าง 15.25 เมตร ความสูง 21 เมตร แต่ละด้านประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนอยู่เป็นชั้น ๆ ภายในบรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ตามตำนานเล่าว่า เจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิของพระนาง เดิมมียอดห่อหุ้มด้วยทองคำ แต่หายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด หรือชื่อทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ นอกจากนี้ยังมี รัตนเจดีย์ อยู่ด้านขวาของวิหาร รวมถึงมีกู่ที่บรรจุอัฐิของครูบาเจ้าศรีวิชัย และสถานที่พระราชทานเพลิงศพครูบาเจ้าศรีวิชัย เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489

คาถาบูชาพระแม่จามเทวี

     นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
     ยา เทวี จะมะเทวีนามิกา อะภิรูปา อะโหสิ ทัสสะนียา ปาสาทิกา

     พุทธสาสะเน จะ อะภิปะสันนา สา อตีเต เมตตายะ เจวะ ธัมเมนะ

     จะ หะริภุญชะยะธานิยา รัชชัง กาเรสิ, อะหัง หะริภุญชะยานะคะระ

     วาสีนังปิ มะหันตัง หิตะ สุขัง อุปาเทสิ, อะหัง ปะสันเนนะ

     เจตะสา ตัง วันทามิ สิระสา สัพพะทาฯ

    ที่ตั้ง : ถนนจามเทวี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
    Google Map : วัดจามเทวี

5. วัดพระยืน
          วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำพูน มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของเมืองหริภุญชัย ตั้งอยู่บ้านพระยืน ตำบลเวียงยอง ไม่ไกลจากที่ว่าการอำเภอเมืองลำพูน โดยหลังจากที่พระนางจามเทวีขึ้นครองเมืองได้ 8 ปี ได้สร้างวัดนี้ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1213 เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของพระสังฆเถระที่ติดตามมาจากเมืองละโว้ มีชื่อว่า วัดอรัญญิการาม แต่บ้างก็ว่า พระเจ้าอัมมิกราช กษัตริย์หริภุญชัยเป็นผู้สร้างขึ้น สิ่งสำคัญภายในวัด คือ พระเจดีย์ทรงมณฑป มีพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ทิศ เครื่องบนประกอบด้วยเจดีย์ห้ายอด โดยมีเจดีย์ทรงระฆังและเจดีย์ทรงกลมขนาดเล็กเป็นประธาน คล้ายกับอานันทเจดีย์ที่เมืองพุกามและเจดีย์วัดป่าสัก จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ให้ได้สักการะ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าทันใจ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้น

คำไหว้พระธาตุเจดีย์วัดพระยืน

     นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

     สังเว จะเจติยัง กะกุสันทัง โกนาคะมะนัง

     กัสสัปปัง โคตะมัง ศรีอริยะเมตตะยัง

     อะหัง วันทามิ สัพพะทา

     ข้าพเจ้าขอน้อมพระเจดีย์อันประเสริฐนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

     อันประกอบด้วย พระกะกุสัมโท พระโกนาคะมะโน พระกัสสะโป พระโคตะโม พระศรีอริยะเมตไตย

     ขอจงประทานพร บารมีปกป้องคุ้มครองข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเทอญ
สถานที่ไหว้พระลำพูน

    ที่ตั้ง : บ้านพระยืน หมู่ที่ 1 ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
    Google Map : วัดพระยืน

6. วัดพระคงฤาษี
           วัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวีครองเมืองหริภุญชัย ตั้งอยู่ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลเหมืองง่า ห่างจากศาลเจ้าแม่จามเทวีไม่เกิน 1 กิโลเมตร เดิมชื่อ วัดอาพัทธาราม พระนางจามเทวีโปรดให้สร้างขึ้น เป็นหนึ่งในจำนวน 4 วัด เพื่อเป็นจตุรพุทธปราการ เมื่อปี พ.ศ. 1223 ประจวบกับก่อนหน้านี้มีฤาษี 2 ตน คือ พระสุเทวฤาษี และ พระสุกกทันตฤาษี ได้พบกัน ณ วัดแห่งนี้ เพื่อปรึกษาหารือในการสร้างหริภุญชัยนคร และเนื่องจากมีผู้พบพระพิมพ์เนื้อดินเผา เรียกว่า พระคง (พระเครื่องศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองลำพูน) ที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก และเชื่อกันว่าเป็นพระคงที่ฤาษี 2 ตนนี้สร้างไว้ จึงเรียกวัดนี้ว่า วัดพระคงฤาษี อีกทั้งตามตำนานยังเล่าว่า วาสุเทพฤาษี  ได้ใช้ไม้เท้ากรีดพื้นเพื่อเขียนแผนผังเมืองลำพูนตรงพระเจีดย์นี้ พระนางจามเทวีจึงทรงสร้างพระเจดีย์ขึ้นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม แล้วให้นายช่างแกะสลักเป็นรูปพระฤาษีทั้ง 4 ตนไว้ แต่ละตนถือไม้เท้าในมือ รูปปั้นแกะสลักฤาษีสร้างด้วยศิลาแดง เมื่อทำเสร็จได้นำไปบรรจุไว้ภายในซุ้มประตูทั้ง 4 ด้านของพระเจดีย์ โดยทางทิศเหนือเป็นรูปวาสุเทพฤาษี ทิศตะวันออกเป็นรูปพระพรหมฤาษี ทิศตะวันตกเป็นรูปของพระสมณนารคฤาษี และทิศใต้เป็นรูปของสุกกทันตฤาษี

คำบูชาพระคงฤาษี

     ฤ ฤ ฤาฤา ฤ ฤ ฤา ชาฤาษี นารอด

     ฤาษีร้อยแปดประสิทธิเม

    ที่ตั้ง : ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลเหมืองง่า อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
    Google Map : วัดพระคงฤาษี

7. วัดดอยติ
          วัดสำคัญที่ตั้งอยู่บ้านหนองบัว ตำบลป่าสัก ห่างจากตัวเมืองลำพูนประมาณ 5 กิโลเมตร ตามถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2025 ไฮไลต์โดดเด่นคือ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ผู้ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยหลังจากพิธีพระราชทานเพลิงสรีระ ณ วัดจามเทวี ได้จัดสร้างสถูปหรือกู่บรรจุอัฏฐิไว้ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา

คำไหว้ครูบาศรีวิชัย

     นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

     อะยัง วุจจะติ สิริวิชะโย นามะ มหาเถโร

     อุตตะมะสีโล นะระเทเวหิ ปูชิโต โส ระโห

     ปัจจะยาทีนัง มะหะลาภา ภะวันตุ เม

     อะหัง วันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสา

     อะหัง วันทามิ สัพพะโส สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิฯ

    ที่ตั้ง : บ้านหนองบัว หมู่ที่ 2 ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
    เฟซบุ๊ก : วัดดอยติ
    Google Map : วัดดอยติ

8. วัดพระพุทธบาทตากผ้า
          ปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ที่ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง ระหว่างดอยม่อนช้างกับดอยเครือ ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธองค์ได้เสด็จจาริกพร้อมด้วยสาวกไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนถึงบริเวณนี้ ได้รับสั่งให้นำจีวรที่ซักระหว่างทางออกมาตากบนหน้าผาหิน จากนั้นจึงทรงอธิษฐานเหยียบพระบาท ประดิษฐานรอยไว้บนลานผาลาด ซึ่งปัจจุบันก็ยังปรากฏเป็นรอยตารางคล้ายจีวรของพระอยู่ บนม่อนดอยเบื้องหลังวัดได้มีการสร้างพระเจดีย์ เป็นศิลปะที่ผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย โดยมีบันไดนาค 469 ขั้น เชื่อมระหว่างเจดีย์บนม่อนดอยกับวัดพระบาทตากผ้าที่เชิงดอย นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมไปไหว้  ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้าด้วย

           ทั้งนี้ เมื่อถึงวันอัฐมีบูชา แรม 8 ค่ำ เดือนแปด ซึ่งเป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระสรีระของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่วัดจะมีประเพณีสรงน้ำพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี

    ที่ตั้ง : เลขที่ 279 หมู่ 6 ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
    เฟซบุ๊ก : วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    Google Map : วัดพระพุทธบาทตากผ้า

9. วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว
         วัดในอำเภอป่าซาง ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเรือน ไม่ไกลจากวัดเกาะกลาง (โบราณสถานที่มีความเก่าแก่ของลำพูน) เป็นสถานที่ประดิษฐาน พระเจ้าตาเขียว หรือ พระพุทธปฏิมาพระเนตรเขียว พระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ ปางนั่งขัดสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 13 ศอก สูง 18 ศอก พระเนตรมีสีเขียว (ตามตำนานเล่าว่าเป็นแก้วมรกตมณีนิลจากแดนทิพย์ของพระอินทร์) การสร้างพระพุทธรูปนี้เริ่มสร้างเมื่อเดือนขึ้น 8 ค่ำ พ.ศ. 1235 เสร็จสมบูรณ์ เดือนยี่แรม 5 ค่ำ ปีพ.ศ. 1235 โดยสร้างครอบอุโมงค์ที่บรรจุพระเกศาธาตุ (อุโมงค์ดังกล่าวอยู่ใต้พื้นพระพุทธรูปปัจจุบันนี้) นิยมไปไหว้ขอพรในเรื่องต่าง ๆ บริเวณหน้าด้านของพระวิหารจะมีรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณอยู่ด้านซ้าย และรูปปั้นท้าวกุมภัณฑ์อยู่ทางด้านขวาให้ได้สักการะกันด้วย

    ที่ตั้ง : ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
    เฟซบุ๊ก : วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว
    Google Map : วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว

11
motor expo นิสสันชวนทำความรู้จัก V2G เทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อการจัดการพลังงานเพื่อร่วมฉลองวันแห่งความยั่งยืนโลก

30 ตุลาคมปีนี้ เป็นวันแห่งความยั่งยืนโลก หรือ World Sustainability Day ซึ่งปกติจะจัดในวันพุธสุดท้ายของเดือนตุลาคม เพื่อสร้างความตระหนัก และชวนให้คนทั่วโลกได้ร่วมกันปรับพฤติกรรม ที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติเพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง  วันนี้จะชวนมารู้จักกับเทคโนโลยีนี้เรียกว่า V2G หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Vehicle-to-Grid  ซึ่งเป็นการนำไฟฟ้าส่วนเกินจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เช่นเดียวกันกับในหลายๆ ประเทศ ประเทศไทยกำลังตื่นตัวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการเดินทางแล้ว ยังไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที
 
เทคโนโลยี V2G ที่อาจเรียกง่าย ๆ ได้ว่าเป็นเทคโนโลยีชาร์จไฟสองทาง นอกจากจะใช้ชาร์จรถก่อนออกเดินทางแล้ว เมื่อเรากลับถึงบ้าน และยังมีไฟฟ้าเหลืออยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ เทคโนโลยี V2G ยังช่วยให้เรานำพลังงานส่วนที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ของรถ EV ส่งกลับเข้าสู่ระบบไฟบ้านมาใช้ในระบบไฟส่องสว่าง แอร์ หรือเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านได้ 

นิสสันซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ผู้นำของโลกด้านเทคโนโลยี V2G มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทย  เริ่มต้นจากโครงการ Blue Switch ที่นิสสันริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างสังคมที่ไร้มลพิษ พร้อมยกระดับการเดินทาง และการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมด้วยการขับเคลื่อนจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

สำหรับประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในองค์กรแรก ๆ ในประเทศไทยที่ได้ศึกษา และทดลองนำเทคโนโลยี V2G มาใช้อย่างเต็มศักยภาพ  โครงการความร่วมมือระหว่าง นิสสัน ประเทศไทย กับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  และบริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด  โดยใช้นิสสัน ลีฟ รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีถ่ายเทพลังงานจากยานพาหนะสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้า เป็นตัวอย่างในการทดลองนี้
 
แม้ว่าโครงการนี้จะเพิ่งเริ่มต้นในประเทศไทย และยังต้องรออีกระยะหนึ่งก่อนที่จะได้เห็นผลการทดลองที่ชัดเจน แต่ในระยะยาวแล้วนั้น การศึกษา และการวิจัยนี้จะช่วยให้เราเข้าใจ และเห็นแนวทางพัฒนาการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี V2G เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ขณะเดียวกันยังช่วยลดมลภาวะ และส่งผลต่อการชะลอผลกระทบจากภาวะโลกร้อนด้วย

หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญของเทคโนโลยี V2G คือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานสำรองสำหรับบ้านเรือน และอาคาร ในกรณีที่เกิดการขาดแคลนพลังงานหรือไฟฟ้าดับ หรือภาวะฉุกเฉิน เช่น เมื่อเกิดภัยพิบัติธรรมชาติทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าล่ม  เราสามารถดึงเอาพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในบ้านเรือนหรืออาคารได้ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้พลังงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ไฟฟ้า ที่จะสามารถดูแลคนเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่รอความช่วยเหลือ

แน่นอนว่า การมีรถยนต์ที่ทำหน้าที่เสมือนโรงไฟฟ้าส่วนตัวของเรา ยังช่วยให้บริหารการใช้ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ถ้าเราจัดการดี ๆ จะสามารถชาร์จไฟรถในช่วงที่คนใช้ไฟฟ้าน้อยอัตราค่าไฟถูก และดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถมาใช้ในบ้านในช่วงที่คนใช้ไฟฟ้าเยอะอัตราค่าไฟฟ้าสูง เราจะลดค่าไฟฟ้าช่วงนี้ได้อีก และยังเป็นการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

ที่สำคัญกว่าเรื่องค่าใช้จ่าย คือ เรากำลังช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน คือความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน  เพียงเราแต่ละคนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนคนละนิด โลกของเราจะดีขึ้นได้แน่นอน ในวันความยั่งยืนโลกปีนี้ คุณจะทำอะไรดี 
 

12
จำนำทะเบียน "สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม" ทำอย่างไร และใช้เอกสารอะไรบ้าง?

อย่างที่ทราบกันแล้วว่าสินเชื่อรถแลกเงินมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือแบบจำนำทะเบียน (โอนเล่ม) และไม่จำนำทะเบียน (ไม่โอนเล่ม) ซึ่งทั้ง 2 แบบมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง หากเลือกขอสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม จะมีขั้นตอนการจำนำทะเบียนอย่างไร และใช้เอกสารอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

สินเชื่อรถแลกเงิน แบบจำนำทะเบียน

(โอนเล่ม)   สินเชื่อรถแลกเงิน แบบไม่จำนำทะเบียน

(ไม่โอนเล่ม)
ต้องใช้ทะเบียนรถเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ
ต้องโอนเล่มทะเบียนรถฉบับจริงให้กับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยในสมุดทะเบียนรถ จะถูกเปลี่ยนชื่อเพื่อใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้สินเชื่อ โดยต้องดำเนินการกับสำนักงานขนส่งทางบก

เมื่อผ่อนชำระสินเชื่อหมดสามารถโอนกรรมสิทธิ์รถคืนมาได้
ต้องใช้ทะเบียนรถของตนเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ
เป็นเพียงการนำเล่มทะเบียนมาฝากไว้กับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยจะทำเป็นเอกสารโอนลอย เพื่อไว้ใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้สินเชื่อเท่านั้น
ชื่อบนสมุดทะเบียนรถยังเป็นชื่อของผู้กู้ไม่มีการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์รถแต่อย่างใด
เมื่อผ่อนชำระสินเชื่อหมดก็สามารถรับเล่มทะเบียนรถคืนได้
หากเลือกสินเชื่อรถแลกเงินแบบจํานําทะเบียนรถ หรือแบบโอนเล่มทะเบียน จะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร ตามไปดู...
 
เอกสารที่ต้องใช้กรณีเลือกขอสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่มทะเบียน
หลักฐานประจำตัวผู้โอนและผู้รับโอน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
หลักฐานการโอนกรรมสิทธิ์ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี สัญญาซื้อขาย หรือหลักฐานอื่นๆ ได้แก่ พินัยกรรม คำสั่งศาล แต่งตั้งผู้จัดการมรดก เป็นต้น
หลักฐานการจัดให้มีประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถซึ่งลงลายมือชื่อผู้ประกอบการขนส่ง และผู้ถือกรรมสิทธิ์แล้ว
หนังสือมอบอำนาจกรณีไม่ได้มาดำเนินการด้วยตนเอง
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ
ขั้นตอนการดำเนินการ
ยื่นแบบคำขอโอนและรับโอน (ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งมีการกรอกข้อความและ ลงนามในคำขอแล้วพร้อมหลักฐาน แล้วนำรถเข้าตรวจสอบยังตรวจสภาพรถ)
ตรวจสอบการบรรจุรถในบัญชี ขส.บ.11 ของผู้รับโอน
ทำการชำระค่าธรรมเนียม
บันทึกรายการทางทะเบียนรถ
รับหนังสือแสดงการจดทะเบียนรถคืน
 
ปิดท้ายกันด้วยข้อดี-ข้อควรระวังของการของสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม หรือจำนำทะเบียน ว่าหากตัดสินใจเลือกสินเชื่อประเภทนี้แล้วจะมีข้อดี และข้อควรระวังอะไรบ้าง

ข้อดีของสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม   

- อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าแบบไม่โอนเล่ม เพราะมีหลักประกันที่แน่นอน (โอนกรรมสิทธิ์เป็นของผู้ให้บริการสินเชื่อ)
- ได้วงเงินสูงกว่า


ข้อควรระวังของสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม

- ต้องไปดำเนินการโอนเล่มทะเบียนที่สำนักงานขนส่งทางบก และอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโอนรถ ค่าอากร เพิ่มเติม
- ใช้ระยะเวลาดำเนินการนานกว่า ประมาณ 7- 15 วัน

ได้ข้อมูลกันไปครบถ้วนแล้ว หากใครที่กำลังคิดจะขอสินเชื่อรถแลกเงินอยู่ เตรียมเอกสารให้พร้อมแล้วไปติดต่อบริษัท หรือสถาบันการเงินที่ให้บริการได้เลยนะคะ เอกสารพร้อม รถพร้อม ประวัติการเงินพร้อม ก็เตรียมรอรับเงินได้เลยค่ะ

13
อาหารสุขภาพบำรุงผิว ตัวช่วยเสริมสุขภาพผิวที่ดีจากภายใน

แนวคิดเรื่องผิวสวยสร้างได้ด้วยอาหารผิวได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาหารผิวเหล่านี้ก็คือสารอาหารที่มีคุณสมบัติบำรุงผิว โดยสามารถได้รับจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน หากผิวได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดี และลดปัญหาผิวพรรณ

โดยปกติแล้ว ผิวหนังของเราต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล เพื่อทำหน้าที่หลักเป็นเกราะปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอมหรือมลภาวะภายนอกมาสัมผัสผิว และช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ การรับประทานอาหารผิวนั้นอาจช่วยให้คุณมีผิวสวยสุขภาพดีโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินราคาแพงลิบลิ่วให้แก่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือสถาบันเสริมความงาม

อาหารผิว ตัวช่วยเสริมสุขภาพผิวที่ดีจากภายใน


4 อาหารผิวที่ต้องมีอยู่ในลิสต์ 

สารอาหารหลายชนิด อย่างสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันจำเป็น และวิตามินต่าง ๆ ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยรวมเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยใสและแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกได้อีกทาง


1.    กรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty Acids)

    หลายคนอาจคิดว่าไขมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ความจริงแล้วไขมันชนิดดีเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและผิวหนัง โดยกรดไขมันจำเป็นช่วยยับยั้งการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในผิวหนัง ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายจากรังสียูวีในแสงแดด และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อีกด้วย หากเราได้รับกรดไขมันนี้น้อยจนเกินไปก็อาจทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

    ตัวอย่างกรดไขมันดี อย่างโอเมก้า 3 (Omega-3) และโอเมก้า 6 (Omega-6) จัดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่ทำหน้าที่เป็นเกราะปกป้องผิว ช่วยป้องกันและรักษาผิวที่อักเสบ โดยโอเมก้า 6 จะพบในอาหารทั่วไปที่เรารับประทาน เช่น น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ หรือธัญพืชชนิดต่าง ๆ ขณะที่โอเมก้า 3 มักพบในปลาทะเล ผักใบเขียว และถั่วชนิดต่าง ๆ


2.    สารต้านอนุมูลอิสระ

    สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) มีบทบาทในการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากการเผาผลาญอาหารในร่างกาย การสัมผัสหรือสูดดมมลพิษอย่างควันบุหรี่ รวมไปถึงการได้รับรังสียูวีจากแสงแดด หากร่างกายมีอนุมูลอิสระปริมาณมาก โดยเฉพาะการโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน จะทำให้ผิวเกิดริ้วรอย หมองคล้ำ และเกิดการอักเสบ ดังนั้น สารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้า แคโรทีน (Beta-Carotene) ซีลีเนียม (Selenium) ลูทีน (Lutein) วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี จึงมีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างมาก

    แม้ว่าอาหารเสริมที่วางขายในท้องตลาดจะนิยมสกัดสารต้านอนุมูลอิสระมาเป็นส่วนประกอบ แต่การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารโดยตรงจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด โดยมักพบได้ในผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และถั่ว


3.    วิตามินบีรวม

    วิตามินบีรวมเป็นกลุ่มของวิตามินบี โดยแต่ละชนิดจะทำหน้าที่ต่างกัน ถือเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและระบบประสาท สำหรับวิตามินบีที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ได้แก่ วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน (Niacin) ซึ่งช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว ลดการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งลอกให้ดีขึ้น และวิตามินบี 7 หรือไบโอติน (Biotin) ช่วยบำรุงสุขภาพผม ผิวหนัง และเล็บให้แข็งแรง หากได้รับวิตามินบีไม่เพียงพออาจทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบได้

    โดยทั่วไปร่างกายของคนเราจะได้รับวิตามินบีจากการรับประทานอาหารในแต่ละวันอย่างเพียงพอต่อความต้องการอยู่แล้ว สามารถพบได้ในอาหารจำพวกไข่ นม เนื้อสัตว์ ธัญพืชชนิดต่าง ๆ และผักใบเขียว สำหรับการรับประทานวิตามินบีรวมหรือวิตามินบีในรูปของอาหารเสริมนั้นควรใช้ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามินบีและอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย


4.    โพรไบโอติกส์

    โพรไบโอติกส์ (Probiotics) จัดเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีบทบาทในการรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ หากร่างกายเสียสมดุลระหว่างจุลินทรีย์ชนิดดีและชนิดที่เป็นอันตราย จะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ อาจทำให้ผิวหนังอ่อนแอและอักเสบได้ง่าย และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนังอื่น ๆ ตามมา เช่น สิว ริ้วรอย โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) และโรคผิวหนังแพ้อักเสบ (Eczema)

    โพรไบโอติกส์พบมากในอาหารที่ผ่านกระบวนการหมัก เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ผักดอง หรือถั่วหมัก รวมถึงการรับประทานอาหารเสริมในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกรับประทาน โดยเฉพาะผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัวร้ายแรง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตราย

นอกจากอาหารผิวเหล่านี้ ยังมีสารอาหารอื่น ๆ สำคัญต่อร่างกาย อย่างโปรตีนหรือแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่ได้จากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย ทั้งนี้ ควรดูแลผิวพรรณเพิ่มเติมด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทาครีมกันแดดก่อนออกไปสัมผัสแสงแดดเสมอ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผิวหรือการรับประทานอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลผิวด้วยวิธีที่เหมาะสม

14
mobile expo 2024: เสียวหมี่ ประเทศไทย จัดงาน ‘Xiaomi Open House 2024’

เสียวหมี่ ประเทศไทย จัดงาน Xiaomi Open House 2024 เพื่อจัดแสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่ทั้งผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์ AIoT ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชม พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมพิเศษและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์จากแขกรับเชิญพิเศษ ในระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ชั้น 3 บริเวณหน้า MCC HALL

ด้วยวิสัยทัศน์ของเสียวหมี่ที่มุ่งมั่นเป็นมิตรกับผู้ใช้งานและเป็นบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในใจผู้บริโภค เสียวหมี่จึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อที่จะสร้างประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ให้แก่ผู้บริโภคทุกคนบนโลกเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จากเสียวหมี่ โดยปัจจุบัน เสียวหมี่ได้ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “คน × รถยนต์ × บ้าน” (“Human × Car × Home”) และมีระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Xiaomi HyperOS ซึ่งจะรวบรวมทุกความต้องการของผู้บริโภคไว้ในระบบนิเวศอัจฉริยะ (Ecosystem) แห่งเดียว ตั้งแต่อุปกรณ์ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์บ้านอัจฉริยะ ไปจนถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่อัจฉริยะ
   
เสียวหมี่ ประเทศไทย จึงได้จัดงาน Xiaomi Open House 2024 ในระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ชั้น 3 บริเวณหน้า MCC HALL เพื่อแนะนำและจัดแสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์ AIoT เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมและทดลองผลิตภัณฑ์ อาทิ

• กลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ได้แก่ สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 Series และ Redmi 13 พร้อมด้วยแท็บเล็ต Xiaomi Pad 6S Pro และ Redmi Pad Pro
•  กลุ่มผลิตภัณฑ์ AIoT ได้แก่ นาฬิกาและสายรัดข้อมืออัจฉริยะ Smart Watch และ Smart Band, หูฟังไร้สาย, ทีวีและจอมอนิเตอร์, อุปกรณ์ทำความสะอาด Xiaomi Robot Vacuum และ Xiaomi Vacuum Cleaner, เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Air Purifier, กล้องวงจรปิดประเภทต่างๆ และผลิตภัณฑ์ไลฟ์ไตล์อื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมพิเศษเพื่อแจกรางวัลให้แก่ผู้ร่วมงาน ทั้งยังได้เชิญแขกรับเชิญพิเศษมาร่วมแชร์ข้อมูลประสบการณ์การใช้งานอีกด้วย

15
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ภาวะตัวเย็นเกิน (Hypothermia)

ภาวะตัวเย็นเกิน หมายถึง ภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิลดต่ำเกิน อันเป็นผลมาจากการสัมผัสถูกความหนาวเย็น เช่น อยู่ในอากาศหนาว หรือแช่ในน้ำเย็นจัด ทำให้อุณหภูมิแกน (core temperature) ของร่างกายลดต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส เป็นเหตุให้อวัยวะต่าง ๆ (โดยเฉพาะหัวใจและสมอง) ได้รับผลกระทบและทำหน้าที่ไม่ได้ตามปกติ เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง เป็นอันตรายถึงตายได้

มักพบในผู้ที่เผชิญกับความหนาวเย็นโดยขาดการป้องกันร่างกายให้อบอุ่นเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

สาเหตุ

1. เกิดจากการสัมผัสกับความหนาวเย็น เช่น อากาศหนาว หรือแช่อยู่ในน้ำเย็นจัด มักพบในคนอายุไม่มากที่ร่างกายแข็งแรง เกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุเป็นส่วนใหญ่

2. เกิดจากร่างกายสูญเสียกลไกปรับอุณหภูมิ ทำให้ไม่สามารถสร้างและเก็บความร้อนในร่างกายได้ มักพบในผู้สูงอายุ (มากกว่า 65 ปี) ผู้ที่มีโรคเรื้อรังอยู่ก่อน (เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพาต โรคสมองเสื่อมหรือปัญญาอ่อน พาร์กินสัน เบาหวานที่มีภาวะประสาทเสื่อม ภาวะขาดไทรอยด์ ภาวะขาดอาหาร เป็นต้น) ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด หรือกินยานอนหลับหรือยากล่อมประสาท บุคคลกลุ่มนี้เมื่อสัมผัสอากาศเย็นพอประมาณ (ไม่ถึงกับหนาวมาก) อุณหภูมิร่างกายก็จะลดลงถึงขั้นเป็นอันตรายได้

อาการ

ระยะแรก ผู้ป่วยจะมีอาการสั่น พูดอ้อแอ้ เดินเซ งุ่มง่าม อ่อนเพลีย ง่วงซึม หงุดหงิด สับสน ความสามารถในการคิดและตัดสินใจด้อยลง (ผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่ากำลังได้รับอันตราย)

ต่อมาเมื่ออุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงไปอีก ผู้ป่วยจะหยุดสั่น มีอาการเพ้อคลั่ง ไม่ค่อยรู้ตัว ในที่สุดหมดสติและหยุดหายใจ

ภาวะแทรกซ้อน

ภาวะตัวเย็นเกินส่งผลกระทบต่ออวัยวะแทบทุกส่วน ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ ได้แก่ หัวใจเต้นผิดจังหวะ มักเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้น (asystole) หรือหัวใจห้องล่างเต้นระรัว (ventricular fibrillation)

นอกจากนี้ยังอาจพบภาวะเลือดเป็นกรด (metabolic acidosis) โพแทสเซียมในเลือดสูง น้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูง ปอดอักเสบ ไตวาย ภาวะเลือดข้น ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ตับอ่อนอักเสบ ทางเดินอาหารเป็นแผลหรือเลือดออก หลอดลมหดเกร็ง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ระยะแรก (อุณหภูมิวัดทางทวารหนักมีค่า 32-35 องศาเซลเซียส) จะพบว่าผิวหนังเย็นและซีด มีอาการสั่น หายใจเร็ว ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง

แต่ถ้าอุณหภูมิร่างกายลดมาก (วัดทางทวารหนักมีค่าต่ำกว่า 32 องศาเซลเซียส) ผู้ป่วยจะไม่มีอาการสั่น หายใจช้า ชีพจรเต้นช้าหรือเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ ปากเขียว ตัวเขียว รูม่านตาโตทั้ง 2 ข้าง หรืออาจพบผู้ป่วยหมดสติ หยุดหายใจ คลำชีพจรไม่ได้


การรักษาโดยแพทย์

เมื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ จำเป็นต้องให้การรักษาอย่างเร่งด่วน และรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

แพทย์จะรีบหาวิธีทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น เช่น ห่มผ้านวมหรือผ้าห่มหนา ๆ เช่น น้ำอุ่นหรือประคบด้วยน้ำอุ่น ห่มผ้าห่มไฟฟ้า (electric blanket) ให้สารน้ำที่อุ่นเข้าทางหลอดเลือดดำ ให้หายใจอากาศที่อุ่นเข้าร่างกาย การสวนน้ำอุ่นทางกระเพาะอาหาร ทวารหนัก กระเพาะปัสสาวะ ช่องท้อง โพรงเยื่อหุ้มปอด เป็นต้น

ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจหรือชีพจรไม่เต้น จะต้องรีบทำการกู้ชีพ (CPR) ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ออกซิเจน ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ปรับดุลอิเล็คโทรไลต์ในเลือด

แพทย์จะประเมินอาการและภาวะแทรกซ้อนโดยการตรวจพิเศษ เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น และทำการแก้ไขภาวะผิดปกติตามที่ตรวจพบ

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงและระยะเวลาที่เป็นก่อนมาถึงโรงพยาบาล ถ้าได้รับการรักษาได้เร็ว ก็มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าร้อยละ 75

แต่ถ้าได้รับการรักษาช้าเกินไป หรือมีปัจจัยเสี่ยง (เช่น โรคเรื้อรัง) อยู่ก่อน ผลการรักษาก็มักไม่ดี


การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นภาวะตัวเย็นเกิน เช่น มีอาการสั่น พูดอ้อแอ้ เดินเซ งุ่มง่าม อ่อนเพลีย ง่วงซึม หงุดหงิด สับสน ความสามารถในการคิดและตัดสินใจด้อยลง หลังจากมีการสัมผัสถูกความหนาวเย็น (เช่น อยู่ในอากาศหนาว หรือแช่ในน้ำเย็นจัด) ควรทำการปฐมพยาบาล แล้วรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที


การปฐมพยาบาล

เมื่อพบผู้ป่วยมีภาวะตัวเย็นเกิน ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลด่วน ก่อนส่งควรให้การปฐมพยาบาลดังนี้

1. พาผู้ป่วยหลบอากาศและลมที่หนาวเย็น หรือขึ้นจากน้ำเย็น เข้าไปในห้องที่อบอุ่นและไม่มีลมเข้า

2. ถ้าเสื้อผ้าเปียกน้ำควรปลดออก และเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่แห้งแทน

3. อบอุ่นร่างกายด้วยการห่อหุ้มร่างกายผู้ป่วยด้วยผ้านวม ผ้าห่มหนา ๆ หรือเสื้อผ้าหนา ๆ ในกรณีที่ยังอยู่ในกลางแจ้ง ควรคลุมถึงหน้าและศีรษะ (เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนจากบริเวณนี้) นอกจากนี้อาจนอนกอดหรือแนบชิดร่างกายผู้ป่วย เพื่อถ่ายเทความร้อนให้ผู้ป่วย

4. จับให้ผู้ป่วยนอนนิ่ง ๆ ในท่านอนหงายบนพื้นที่อบอุ่นหรือมีผ้าหนา ๆ ปูรอง หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่จำเป็น ห้ามนวดหรือแตะต้องตัวผู้ป่วยแรง ๆ อาจกระเทือนให้หัวใจหยุดเต้นได้

5. ถ้าผู้ป่วยยังรู้สึกตัว ให้ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอุ่น ๆ ห้ามมีแอลกอฮอล์ผสม เพราะยิ่งจะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อน

6. ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการเป่าปาก ถ้ายังหายใจได้แม้จะแผ่ว ๆ ก็ยังไม่ต้องทำการกู้ชีพ อาจกระเทือนให้หัวใจหยุดเต้นได้


การป้องกัน

การป้องกันอันตรายจากความเย็น ควรปฏิบัติ ดังนี้

1. สวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นเพียงพอ ห่มผ้าห่มหรือผ้านวมหนา ๆ หรือผิงไฟให้อบอุ่น

2. หลีกเลี่ยงการออกไปสัมผัสอากาศหนาวหรือลมหนาวนอกบ้าน ถ้าเลี้ยงไม่ได้ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้เพียงพอ รวมทั้งปกคลุมถึงหน้าและศีรษะ ใส่ถุงมือถุงเท้า

3. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์

4. ในช่วงอากาศหนาวเย็น ควรดูแลกลุ่มเสี่ยง (เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง) เป็นพิเศษ ไม่ให้ได้รับอันตราย


ข้อแนะนำ

1. แม้ว่าในบ้านเราอากาศจะไม่หนาวมาก แต่ในช่วงฤดูหนาวในแต่ละปีก็พบมีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวในภาคเหนือและภาคอีสาน ดังนั้น เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาวจึงควรหาทางป้องกันไม่ให้รับอันตราย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะการเจ็บป่วยเรื้อรัง

2. โรคนี้จัดว่าเป็นภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินร้ายแรง หากพบผู้ป่วยถูกความหนาวเย็น และมีอาการสงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ ควรรีบให้การปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลทันที

หน้า: [1] 2 3 ... 10































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า