ผู้เขียน หัวข้อ: โรคมะเร็งช่องปาก (Oral Cancer)  (อ่าน 812 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 353
    • ดูรายละเอียด
โรคมะเร็งช่องปาก (Oral Cancer)
« เมื่อ: วันที่ 20 เมษายน 2025, 13:01:00 น. »
โรคมะเร็งช่องปาก (Oral Cancer)

มะเร็งช่องปาก (Oral Cancer) เป็นเนื้อร้ายที่เกิดและพัฒนาขึ้นในส่วนใดก็ตามที่อยู่ในช่องปาก โดยเซลล์มะเร็งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งที่บริเวณริมฝีปาก ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม เพดานปาก หรือพื้นปาก ในกรณีที่พบได้น้อย เซลล์มะเร็งยังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ทอนซิลด้านหลังช่องปาก ซึ่งเป็นต่อมผลิตน้ำลาย รวมถึงในบริเวณช่องคอที่เชื่อมต่อระหว่างปากกับหลอดลมหรือคอหอย

ทั้งนี้มะเร็งช่องปากคือหนึ่งในกลุ่มมะเร็งในระบบศีรษะและลำคอ (Head and Neck Cancers) ซึ่งการรักษามะเร็งช่องปากอาจคล้ายกับการรักษามะเร็งชนิดอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันนี้


อาการของมะเร็งช่องปาก

หากผู้ป่วยพบว่าในช่องปากบริเวณกระพุ้งแก้มหรือลิ้นมีปื้นสีขาวหรือแดงปรากฏขึ้นเป็นรอยอยู่นาน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงระยะเริ่มต้นของโรคมะเร็งช่องปาก ดังนั้นหากพบอาการดังกล่าว ผู้ป่วยควรรีบตรวจหาสาเหตุของอาการ อย่างไรก็ตามอาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้ในผู้ป่วยมะเร็งช่องปากนั้นประกอบด้วย

    ภายในช่องปากปรากฏรอยสีขาวคล้ายกำมะหยี่ แดง หรือรอยด่างสีแดงขาว
    ที่บริเวณริมฝีปาก เหงือก ลิ้น หรือส่วนอื่น ๆ ในช่องปาก เกิดอาการบวม มีตุ่ม ก้อนเนื้อ หรือมีแผลเกิดขึ้น
    พบว่ามีเลือดไหลในช่องปากโดยไม่ทราบสาเหตุ
    รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างติดอยู่ภายในลำคอ
    พบว่าที่บริเวณใบหน้า ปาก หรือลำคอ มีอาการด้านชาไร้ความรู้สึก หรือมีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ มีเลือดออกง่ายในช่องปาก อาการเหล่านี้ ไม่หายภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์
    เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวฟัน การสบฟัน หรือการเคี้ยว
    อาการเจ็บคอเรื้อรัง รวมทั้งเสียงเปลี่ยน และเสียงแหบ
    เจ็บที่หู
    มีปัญหาในการเคี้ยวหรือกลืนอาหาร รวมไปถึงการพูดคุยและการเคลื่อนไหวของกรามหรือลิ้น
    น้ำหนักลดอย่างมาก


สาเหตุของมะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปากเกิดขึ้นจากความผิดปกติของการพัฒนาเซลล์ในช่องปากจนเกิดการกลายพันธ์ุในระดับพันธุกรรม ซึ่งทั่วไปแล้วจะเริ่มต้นจากเซลล์ปกติชนิดสะความัส (Squamous Cells) ที่พบได้มากในช่องปากและริมฝีปาก กลายมาเป็นเซลล์มะเร็งสะความัสในที่สุด (Squamous Cell Carcinomas) การกลายพันธุ์ของเซลล์จนเกิดเป็นเซลล์มะเร็งนี้จะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดเซลล์มะเร็งในช่องปากอาจกลายสภาพเป็นเนื้อร้ายและท้ายที่สุดก็แพร่กระจายสู่ส่วนอื่น ๆ เช่น บริเวณศีรษะ หรือลำคอ แม้ว่าการกลายพันธุ์ของเซลล์ดังกล่าวยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีสาเหตุเกิดขึ้นมาจากอะไร แต่พบว่ามีปัจจัยบางประการที่สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งช่องปากได้ ดังนี้

    การสูบบุหรี่ ซิการ์ หรือไปป์ สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดเซลล์มะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 6 เท่า
    การบริโภคยาสูบผ่านการเคี้ยว การสูดดม หรือการจุ่ม อาจก่อให้เกิดการพัฒนาเซลล์มะเร็งที่บริเวณเหงือก แก้ม หรือริมฝีปาก มากถึง 50 เท่า
    ในครอบครัวมีประวัติสมาชิกที่เคยเป็นมะเร็งมาก่อน
    การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินควร พบว่าผู้ที่ดื่มมีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ 6 เท่า
    การได้รับแสงอาทิตย์มากจนเกินไป โดยเฉพาะในวัยเด็ก
    โรคติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus) เป็นเชื้อชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งที่อวัยวะเพศชาย โดยเชื้อเอชพีวีมีด้วยกันหลากหลายชนิด สำหรับชนิดที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งศีรษะและลำคอมากที่สุด คือ เอชพีวี 16 ทั้งนี้เชื้อเอชพีวีสามารถติดต่อส่งผ่านกันด้วยการสัมผัสของบาดแผลกับบริเวณที่มีเชื้อ ตลอดจนการมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางปาก ช่องคลอด และทวารหนัก


การวินิจฉัยมะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปากสามารถวินิจฉัยได้ด้วยกาตรวจสุขภาพจากแพทย์ รวมถึงการพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ด้านศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกร ทั้งนี้กระบวนการทดสอบอาจทำได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้


การวินิจฉัยโดยการตัดชิ้นเนื้อตรวจ

การตัดชิ้นเนื้อตรวจ (Biopsy) เป็นวิธีการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อค้นหาเซลล์มะเร็งโดยการส่องกล้องจุลทรรศน์ตรวจดูสภาพของเซลล์ว่ามีการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งหรือไม่ และระบุประเภทชนิดความผิดปกติของเซลล์นั้น ๆ ด้วย สำหรับวิธีการตัดชิ้นเนื้อตรวจจะประกอบด้วย

    การตัดชิ้นเนื้อเพียงบางส่วนแบบ Incision Biopsy โดยเริ่มจากการใช้ยาชาเฉพาะที่ในบริเวณที่สามารถทำได้ง่าย เช่น ที่ลิ้นหรือส่วนอื่นของช่องปาก แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อเล็ก ๆ และคีบด้วยแหนบภายหลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์ ในบางกรณีอาจมีการเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดเล็กน้อยหลังจากการตัดชิ้นเนื้อตรวจ ส่วนการตัดชิ้นเนื้อแบบ Punch Biopsy จะเป็นการตัดชิ้นเนื้อที่เล็กกว่าและไม่ต้องใช้การเย็บปิดแผลแต่อย่างใด
    หัตถการเจาะดูดด้วยเข็มเล็ก (FNAC) มีลักษณะคล้ายกับการตรวจเลือด และมักจะใช้เมื่อพบว่ามีการบวมโตของลำคอของผู้ป่วย การเจาะตรวจชิ้นเนื้อด้วยวิธีนี้มักจะทำพร้อมกันกับการตรวจอัลตราซาวด์ที่ลำคอ แพทย์จะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมากดึงเอาตัวอย่างเซลล์และของเหลวออกมาจากก้อนเนื้อเพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็ง
    การใช้กล้องส่องตรวจในโพรงจมูก (Nasendoscopy) เป็นวิธีการที่ใช้เมื่อเซลล์ต้องสงสัยอยู่ในบริเวณจมูก ลำคอ (คอหอย) หรือกล่องเสียง อาจมีการฉีดยาชาเฉพาะที่เข้าในโพรงจมูกและลำคอเพื่อลดความรู้สึกไม่สบายขณะการส่องกล้องที่ใช้เวลาราว 30 นาที โดยกล้องมีลักษณะบาง ยาว และมีไฟฉายติดเพื่อใช้ในการส่องสำรวจในรูจมูกและลำคอของผู้ป่วย ซึ่งในบางกรณีแพทย์อาจฉายภาพจากกล้องขึ้นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ผู้ป่วยเห็นไปพร้อม ๆ กัน
    การส่องกระจกดูกล่องเสียงในคอ (Indirect LPharyngoscopy) และการใช้กล้องส่องตรวจกล่องเสียง (Laryngoscopy) โดยแพทย์อาจใช้ยาชาพ่นที่บริเวณต้องการตรวจ ก่อนจะใช้กระจกขนาดเล็กวางที่ส่วนหลังในปากผู้ป่วยเพื่อส่องตรวจโคนลิ้น ลำคอ และกล่องเสียง
    การส่องกล้องตรวจกล่องเสียงโดยตรง (Direct LPharyngoscopy) แพทย์อาจมีการพ่นยาชา ก่อนจะสอดกล้องนำแสงใยแก้วที่มีความยืดหยุ่นเข้าภายในช่องปากหรือจมูกยังบริเวณที่ไม่สามารถใช้กระจกสะท้อนดูได้ง่าย ๆ เช่น บริเวณหลังโพรงจมูกและกล่องเสียง
    การส่องกล้องแบบแพนเอนโดสโคป (Panendoscopy) มักใช้หลังจากการวางยาสลบ การส่องกล้องแบบดังกล่าวใช้ในการสำรวจบริเวณเดียวกับการส่องกล้องตรวจในโพรงจมูก และทำการส่องผ่านจมูกหรือช่องปากเพื่อตรวจบริเวณกล่องเสียง หลอดอาหาร รวมทั้งหลอดลม


การวินิจฉัยโดยการทดสอบแบบอื่น ๆ

การวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ทำได้จากการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคมะเร็งนั้นจำเป็นต้องทราบว่าในกรณีของผู้ป่วยนั้นมีความรุนแรงของโรคอยู่ที่ระยะใด โดยการตรวจหาระยะมะเร็งสามารถทำได้จากการตรวจดูการแพร่กระจายของเนื้อเยื่อรอบบริเวณมะเร็งแรก เช่น บริเวณผิวหนังหรือกราม รวมทั้งการตรวจดูการแพร่กระจายที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรสแกนตรวจทั้งร่างกายเพื่อตรวจหาว่าเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ  อีกหรือไม่ แม้ว่าอาจเป็นไปได้ยากที่จะกระจายไปส่วนอื่นที่ไม่ใช่บริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้การตรวจหาระยะมะเร็งก็เพื่อการวางแผนรักษาในลำดับต่อไป โดยการทดสอบอาจประกอบด้วย

    การทำอัลตราซาวด์
    การทำเอกซเรย์
    การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Scan)
    การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
    การทำเพทสแกน (PET Scan) เป็นการตรวจโดยการถ่ายภาพความเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีของร่างกาย โดยใช้สารกัมมันตรังสีในปริมาณที่ปลอดภัย


การรักษามะเร็งช่องปาก

การรักษามะเร็งช่องปากขึ้นอยู่กับปัจจัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพรวมสุขภาพ ระยะของโรค หรือบริเวณที่เกิดโรคของผู้ป่วย ซึ่งการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาโดยแพทย์อาจมีการผสมผสานวิธีการรักษาที่หลากหลาย อาทิ การผ่าตัด การทำเคมีบำบัด รังสีรักษา ซึ่งผู้ป่วยและแพทย์ควรปรึกษากัน เพื่อวางแผนการรักษา

การรักษาด้วยรังสีรักษาอาจทำให้ฟันติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นการตรวจสุขภาพฟันก่อนการรักษาด้วยรังสีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์อาจลดประสิทธิภาพการรักษา ดังนั้นผู้ป่วยควรหยุดการสูบบุหรี่รวมทั้งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การรักษามะเร็งช่องปากอาจประกอบด้วย


การผ่าตัด (Surgery)

วิธีการรักษาโดยการผ่าตัดมีความเสี่ยงก่อให้เกิดการติดเชื้อหรือภาวะเลือดออก นอกจากนั้นการผ่าตัดอาจส่งผลต่อรูปลักษณ์ หน้าตา รวมถึงความสามารถในการกิน ดื่ม หรือพูดคุยของผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปาก ดังนั้นผู้ป่วยที่ใช้วิธีการผ่าตัดจึงมักต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ โดยอาจมีการต่อท่อให้อาหารทางจมูกในระยะสั้นเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงยา ส่วนการใส่ท่อให้อาหารจะเป็นการต่อทะลุผ่านผิวหนังเข้าสู่กระเพาะอาหาร ทั้งนี้การผ่าตัดสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

    การผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออก คือการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อและบริเวณเซลล์เนื้อเยื่อโดยรอบออก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่ ซึ่งกระบวนการผ่าตัดก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือบริเวณที่พบก้อนเนื้อ
    การผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออกร่วมกับต่อมน้ำเหลืองที่คอ หากพบว่าโอกาสสูงที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองในลำคอ แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอออกไปด้วย ซึ่งไม่ส่งผลต่อการทำงานของร่างกายการ
    ผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมตกแต่งช่องปาก ไม่ว่าจะด้วยการทำฟันเทียม การปลูกผิวหนัง กล้ามเนื้อ หรือกระดูกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ผ่าเอาเซลล์มะเร็งออกจากช่องปากแล้ว แพทย์อาจให้คำแนะนำในการผ่าตัดสร้างช่องปากขึ้นใหม่เพื่อเป็นการฟื้นฟูความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย นั่นคือความสามารถในการพูดคุยหรือการบริโภคอาหารต่าง ๆ


รังสีรักษา (Radiation Therapy)

การฉายแสงหรือรังสีรักษา อาจใช้เป็นการรักษาเพียงแค่วิธีเดียวในผู้ป่วยมะเร็งระยะเริ่มต้น ใช้ตามหลังการผ่าตัด หรือใช้พร้อมกันกับการทำเคมีบำบัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ทั้งนี้การใช้รังสีในการทำลายเซลล์มะเร็งมักจะทำทุก ๆ วันสำหรับ 1 คอร์สการฉายรังสีซึ่งกินระยะเวลา 6 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางอาการอื่น ๆ ด้วย เช่น ขนาด หรือลักษณะการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งว่ามากน้อยแค่ไหน

การฉายรังสีอาจทำลายเซลล์ปกติไปพร้อม ๆ กันกับเซลล์มะเร็ง และยังมีผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้รังสีรักษา ได้แก่ ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ายกับถูกแดดเผาและรู้สึกเจ็บปวดร่วมด้วย ผู้ป่วยอาจมีแผลเปื่อยขึ้นที่บริเวณช่องปาก เจ็บปาก และเจ็บคอ สูญเสียหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงในการรับรส อาการปากแห้ง ไม่รู้สึกอยากอาหาร เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย มีกลิ่นปาก กระดูกโผล่ และกรามแข็ง ทั้งนี้ผลข้างเคียงจากการใช้รังสีรักษาอาจดีขึ้นภายหลังจากการรักษาเสร็จสิ้น


การทำเคมีบำบัด (Chemotherapy)

เคมีบำบัดเป็นการใช้ยารักษามะเร็ง โดยจะไปทำลายและหยุดยั้งกระบวนการเติบโตของเซลล์มะเร็งในระดับพันธุกรรม ทั้งนี้การรักษาด้วยการทำเคมีบำบัดสามารถทำร่วมกับรังสีรักษาได้ในบางกรณีที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายมาก หรือมีโอกาสกลับเป็นมะเร็งซ้ำสำหรับผู้ป่วยบางราย อย่างไรก็ดี การใช้ยาในการทำเคมีบำบัดอาจไปทำลายเซลล์ปกติในร่างกายด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้การรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดมักมีผลข้างเคียงที่อาจส่งผลให้เห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกไม่สบายเนื้อตัว อาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ผมร่วง เจ็บปวดบริเวณปาก แผลเปื่อยที่ปาก ปัญหาเกี่ยวกับไต ปัญหาทางการได้ยินและการทรงตัว รวมทั้งความรู้สึกชาหรือเจ็บปวดบริเวณมือและเท้า นอกจากนี้การทำเคมีบำบัดอาจลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยลงด้วยเช่นกัน


การให้ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Targeted Drugs Therapy)

การใช้ยาซีทูซิแมบ (Cetuximab) ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้ในการรักษากลุ่มมะเร็งในระบบศีรษะและลำคอ โดยยาดังกล่าวจะทำหน้าที่เข้าไปหยุดยั้งการทำงานของโปรตีนที่พบได้ในเซลล์ปกติแต่พบมากในเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยวิธีนี้ยังสามารถทำควบคู่ไปกับการทำเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา


ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปากและกระบวนการรักษาโรคสามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้แล้วแต่กรณี ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ในบางครั้งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจในการชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยภาวะแทรกซ้อนอาจรวมไปถึง

    อาการกลืนลำบาก (Dysphagia) โดยนักบำบัดด้านการพูดอาจใช้วิธีตรวจวิดีโอฟลูออโรสโคป (Videofluoroscopy) เป็นการประเมินผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก ทดสอบโดยการให้ผู้ป่วยกลืนอาหารหรือน้ำที่มีส่วนผสมของสีซึ่งสามารถแสดงให้เห็นผ่านการเอกซเรย์ ว่าการกลืนของผู้ป่วยเป็นเช่นไร ทั้งนี้หากพบว่าการกลืนมีปัญหา ผู้ป่วยอาจต้องต่อสายสวนกระเพาะอาหารระยะสั้นเพื่อช่วยให้บริโภคอาหารได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงการสำลักลงปอด  นอกจากนี้นักบำบัดอาจแนะนำวิธีการอื่น ๆ ที่ทำให้อาการดีขึ้น อาทิ การบริหารที่ช่วยพัฒนาการกลืนอาหาร เป็นต้น
    ปัญหาในการพูด เกิดจากการใช้รังสีรักษาและการผ่าตัด นักบำบัดด้านคำพูดจะช่วยสอนหลักการออกเสียงให้กับผู้ป่วยใหม่
    ผลกระทบทางอารมณ์ ผู้ป่วยอาจประสบปัญหาที่เป็นภาวะทางอารมณ์ในระหว่างที่กำลังเป็นโรคมะเร็งช่องปาก โดยภาวะโรลเลอร์โคสเตอร์ (Roller Coaster Effect) เป็นหนึ่งภาวะที่พบได้บ่อยครั้งสำหรับกรณีผู้ป่วยโรคมะเร็ง กล่าวคือผู้ป่วยอาจรู้สึกเสียใจหรือดีใจสลับกันบ่อยครั้ง อาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการรักษาโรค จนก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมาได้ หากพบว่าผู้ป่วยกำลังมีภาวะซึมเศร้า ควรรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยทันที


การป้องกันมะเร็งช่องปาก

ปัจจุบันยังไม่ทราบถึงวิธีการป้องกันมะเร็งได้อย่างแน่ชัด แต่ผู้ป่วยสามารถลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดมะเร็งช่องปากได้ โดยแนวทางการป้องกันอาจประกอบไปด้วยดังนี้

    หากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มแค่พอควร เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจสร้างความระคายเคืองให้กับเซลล์ในช่องปาก ทำให้ง่ายต่อการกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
    ลดหรือเลิกการใช้ยาสูบ การบริโภคยาสูบไม่ว่าจะโดยการสูบหรือเคี้ยว เป็นพฤติกรรมอันตรายที่อาจทำให้เซลล์ในช่องปากเกิดเป็นเซลล์มะเร็งขึ้นมาได้
    รับประทานผักผลไม้ให้หลากหลาย โดยผู้ป่วยควรเลือกผลไม้หรือผักที่อุดมด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งช่องปาก
    หมั่นเข้าพบทันตแพทย์เพื่อการตรวจสุขภาพช่องปากสม่ำเสมอ
    พยายามหลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะในบริเวณริมฝีปาก ด้วยการทาครีมกันแดดสำหรับริมฝีปากหรือการสวมหมวกปีกกว้างที่สามารถบดบังแสงแดดไม่ให้กระทบกับใบหน้าโดยตรง


 









































































กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า