ลักษณะของการปวดหัว มั่นใจว่าไม่มีผู้ใดไม่เคยประสบพบปัญหาสุขภาพที่ดูอย่างกับว่าเกิดเรื่องเล็ก แต่ว่าเกิดขึ้นได้เป็นประจำนี้ กลับทำให้มีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยจะต้องเจอแพทย์เพื่อค้นหาต้นเหตุแล้วก็ทุเลาอาการที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการปวดหัวจี๊ดๆปวดศีรษะตุบๆปวดศีรษะข้างซ้าย ปวดศีรษะข้างขวา ปวดศรีษะด้านเดียว ปวดศีรษะอีกทั้งหัว ปวดขมับ และก็ยังรวมทั้งปวดศรีษะแล้วอาเจียน ซึ่งในแต่ละตำแหน่งต่างก็สามารถชี้ต้นเหตุของลักษณะของการปวดหัวที่เกิดขึ้นได้ วันนี้พวกเรามาดูกันว่าลักษณะของการปวดหัวที่เป็นอยู่บอกโรคอะไร
ปวดหัวข้างซ้ายปวดศีรษะอย่างนี้ ปวดศีรษะนี้ เป็นผลมาจากอะไรได้บ้าง
1. ปวดศรีษะข้างซ้าย หรือข้างขวา ด้านใดด้านหนึ่ง
ลักษณะของการปวดหัวฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะข้างซ้ายหรือข้างขวา บางทีอาจเป็นลักษณะของ “ปวดศรีษะไมเกรน” ได้ โดยมักมีลักษณะอาการอื่นร่วม เป็นต้นว่า เจ็บปวดรวดร้าวไปถึงกำดัน อ้วก อ้วก จะมีลักษณะมากยิ่งขึ้นเมื่อลุกเดิน พบเสียงดัง หรือแสงสว่างแรง โดยอาการจะเกิดขึ้นนาน 4-72 ชั่วโมง แล้วก็จะดียิ่งขึ้นเมื่อได้พักในที่มืดหรืออากาศเย็น
2. ปวดศีรษะเสมือนโดนบีบขมับอีกทั้ง 2 ข้าง
ถ้าหากคุณมีลักษณะปวดศรีษะเสมือนโดนบีบตลอดระยะเวลารอบๆหน้าผากแล้วก็ขมับอีกทั้ง 2 ข้าง บางโอกาสมีลักษณะอาการปวดเบ้าตาร่วมด้วย รวมทั้งมีลักษณะเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงด้านหลังทาย โดยมักมีลักษณะเสมอๆในเวลาบ่ายหรือเย็น นี่บางทีอาจเป็น “ลักษณะของการปวดหัวจากความเคร่งเครียดหรือที่เรียกว่า “ปวดหัวจากกล้ามตึงตัว” ที่มาจากการตึงของกล้าม เป็นสัญญาณเตือนที่แสดงว่าคุณจำต้องเริ่มปลดปล่อยว่างความตึงเครียดรวมทั้งถึงเวลาพักแล้วนั่นเอง
3. ปวดศีรษะรวมทั้งปวดกระบอกตาฝ่ายเดียว ร่วมกับตาแดง ร้องไห้
การปวดศีรษะฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการปวดหัวข้างซ้าย หรือปวดศรีษะข้างขวา ไม่ใช่แค่เพียงแต่บ่งถึงลักษณะของการปวดไมเกรนแค่นั้น แม้กระนั้นยังสามารถเป็นอาการ “ปวดศรีษะคลัสเตอร์” ได้ด้วยเหมือนกัน แต่ว่าจะมีความร้ายแรงมากยิ่งกว่าไมเกรน ร่วมกับลักษณะของการปวดเบ้าตา ตาแดง ร้องไห้ฝ่ายเดียวกับที่ปวดศรีษะ แม้กระนั้นดังนี้ลักษณะของการปวดหัวคลัสเตอร์มักเป็นๆหายๆรับประทานช่วงเวลาตั้งแต่ 15 นาที จนกระทั่ง 3 ชั่วโมง สามารถปวดถี่ถึง 8 ครั้ง/วัน หรือปวดวันเว้นวันได้ โดยชอบปวดซ้ำในขณะเดิมของวัน หรือระยะเวลาเดิมของปี
4. ปวดศีรษะตอนหน้าผากไปจนกระทั่งโหนกแก้ม หรือโพรงจมูก ร่วมกับอาการคัดจมูก หรือการรู้กลิ่นไม่ดีเหมือนปกติ
ซึ่งทั้งปวงที่ได้กล่าวข้างต้นนี้เป็นอาการที่ออกจะแจ่มกระจ่างของ “โรคไซนัส” ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ท่านรู้สึกเจ็บปวดหัวได้ แต่ว่าโรคไซนัสชอบทำให้ท่านมีลักษณะอาการปวดตึงๆหนักๆตอนรอบๆหน้าผาก หัวขนคิ้ว หัวตา โพรงจมูกแล้วก็โหนกแก้มได้ รวมทั้งมีลักษณะคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือการรู้กลิ่นไม่ปกติได้ด้วยได้
5. ปวดศีรษะตุบๆตัวร้อน เป็นไข้
สำหรับบางบุคคลที่มีลักษณะปวดศรีษะตุบๆไม่ได้เฉพาะเจาะจงรอบๆใดรอบๆหนึ่ง ร่วมกับอาการหมดแรง เหน็ดเหนื่อย ตัวร้อน จับไข้ กลุ่มนี้เป็นอาการ “ปวดศรีษะจากหวัดต่างๆ” นั่นเอง
6. ปวดศรีษะ หรือตึงกำดัน ร่วมกับปากเบี้ยว แขนขาเมื่อยล้า
ลักษณะของการปวดหัวรอบๆกำดันที่อยู่ๆก็ปวดขึ้นมา รวมทั้งเพิ่มระดับความร้ายแรงแบบฉับพลันฉับพลัน ร่วมกับอาการปากเบี้ยว ไม่สามารถพูดได้ แขนขาอ่อนล้า เดินเซ เดินตรากตรำ ไม่เห็น และก็ซึมลงอย่างชัดเจน บางทีอาจเป็นอาการ “ปวดศีรษะจากโรคเส้นเลือดสมอง” ซึ่งควรจะรีบเจอหมอให้เร็วที่สุดด้วยเหตุว่าเสี่ยงต่อชีวิตได้
7. ปวดศรีษะเรื้อรัง ปวดร้ายแรงเพิ่มมากขึ้นอาเจียน อ้วก เห็นภาพเบลอ เห็นภาพซ้อน หรือมีลักษณะอาการชักเกร็ง
สำหรับผู้ใดกันที่มักปวดศรีษะเสมอๆแต่ละครั้งทวีความร้ายแรงขึ้นเรื่อยหรือมีลักษณะปวดตอนค่ำจนกระทั่งจำต้องตื่นเวลากลางดึก ร่วมกับมีลักษณะอาเจียน คลื่นไส้ เห็นภาพเบลอ เห็นภาพซ้อน กล่าวไม่ชัดเจน กล่าวขัดข้อง มีปัญหาการเดิน ทรงตัวมิได้ แขนขาอ่อนล้า เป็นอัมพาตครึ่งด้าน หรือมีลักษณะอาการชักเกร็งโดยไม่เคยเป็นมาก่อน บางทีอาจเป็นอาการ “ปวดศีรษะจากเนื้องอกในสมอง” ได้
ปวดศีรษะแบบไหนที่ควรจะรีบมาเจอหมอ
ลักษณะของการมีอาการปวดศีรษะที่ร้ายแรงต่อชีวิต เป็นต้นว่า
- ปวดศีรษะรอบๆกำดัน ปวดศีรษะร่วมกับมีลักษณะอาการชะตามแขนขา ไหมมีแรง
- ปวดศรีษะแล้วชักเกร็ง วูบสลบ
- ปวดศีรษะมากมายจนถึงคลื่นไส้พุ่ง
- ปวดศีรษะร่วมกับการมองมองเห็นห่วยลง ไม่สามารถพูดได้ ปากเบี้ยว เดินไม่ปกติ
- ปวดศรีษะยามค่ำคืนจนถึงจำเป็นต้องตื่น
หากว่าลักษณะของการปวดหัวจะมองเกิดเรื่องทั่วๆไป ที่บ่อยแค่เพียงนอนพักให้พอเพียง หรือกินยาแก้ปวดก็สามารถทุเลาลักษณะของการปวดหัวได้แล้ว แต่ว่าดังนี้ลักษณะของการปวดหัวที่เรื้อรัง หรือมีลัษณะทิศทางร้ายแรงขึ้นร่วมกับการชาแขนขา เหนื่อย ควรจะรีบไปโรงหมอโดยทันที
ถามไถ่รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้และก็นัดแนะหมอถึงที่เหมาะ
ศูนย์สมองรวมทั้งระบบประสาท ชั้น 3 โรงหมอหลุดพ้น
เวลาทำการ 09.00-20.00 น.
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายหมอ หรือบริการขอความเห็นแพทย์ออนไลน์